แมนูไลฟ์ประกันชีวิตตั้งเป้า 7 ปีขึ้นอันดับ 7 ในอุตสาหกรรม กวาดเบี้ยรับรวมแตะ 10,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าล้างขาดทุนสะสม 1,000 ล้านบาทใน 5 ปี
นางสาวนิกกี้ หงษ์ชุมแพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมนูไลฟ์ ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนระยะยาวเอาไว้และตั้งเป้าไว้ว่าอีก 7 ปีข้างหน้าจะสามารถทำเบี้ยรับรวมได้ถึง 10,000 ล้านบาท และก้าวขึ้นไปอยู่อันดับที่ 7 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยให้ได้จากปัจจุบันเบี้ยรับรวมอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท อยู่อันดับ 21 ของอุตสาหกรรม
“เป้าหมายการขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 7 ของอุตสาหกรรมในอีก 7 ปีข้างหน้าด้วยเบี้ยรับรวม 10,000 ล้านบาทนั้น จะมาจากการไปซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการรายอื่นเข้ามาด้วย แต่ในระยะแรกเราต้องแสดงให้บริษัทแม่เห็นว่าเรามีศักยภาพพอที่จะไปซื้อกิจการรายอื่นๆ ก่อน เมื่อบริษัทแม่เห็นศักยภาพเราก็จะต้องเสนอแผนต่างๆ ไปให้บริษัทแม่เป็นผู้พิจารณาต่อไป”
ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยประกันรับปีแรกของทุกช่องทางเอาไว้ที่ 250 ล้านบาท เติบโต 200% และในปีนี้แมนูไลฟ์จะเน้นการทำตลาดทุกช่องทาง ทั้งช่องทางตัวแทน ช่องทางการตลาดขายตรง ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ และช่องทางอื่นๆ เพื่อส่งผลให้เบี้ยรับรวมอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท ส่วนปีที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรกอยู่ที่ 79 ล้านบาท เบี้ยประกันรับรวมอยู่ที่ 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม โจทย์ที่บริษัทแม่ให้มานั้นจริงๆ แค่เติบโตเพียง 30% เท่านั้น แต่เมื่อเข้ามาบริหารก็ต้องการให้เติบโตมากกว่านี้ จึงตั้งเป้าเติบโตเอาไว้ที่ 200% ส่วนเรื่องการเพิ่มทุนนั้น ในปีนี้ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเพราะมีทุนจดทะเบียนอยู่แล้ว 3,000 ล้านบาท สินทรัพย์รวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2558 นั้นคาดว่าจะต้องทำการเพิ่มทุนอีก 300 ล้านบาทเพื่อให้เงินกองทุนสูงกว่าปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 300%
นางสาวนิกกี้ กล่าวอีกว่า บริษัทได้วางแผนในการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาทให้หมดภายในปี 2018 หรือปี 2561 ซึ่งในปีดังกล่าวเบี้ยรับรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตภายในเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีการซื้อกิจการรายอื่นเข้ามารวม ส่วนการเข้าซื้อกิจการบริษัทอื่นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
“การเติบโตด้วยตัวเองในภาวะเช่นนี้ดูเหมือนค่อนข้างลำบาก เพราะในปี 2558 ก็มีการเปิดเออีซี ซึ่งจะเป็นชนวนในการให้เกิดการควบรวมกิจการมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้บริษัทแม่แมนูไลฟ์นั้นมีศักยภาพพอเพราะปัจจุบันมีทรัพย์สินกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ”
นางสาวนิกกี้ หงษ์ชุมแพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมนูไลฟ์ ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทวางแผนระยะยาวเอาไว้และตั้งเป้าไว้ว่าอีก 7 ปีข้างหน้าจะสามารถทำเบี้ยรับรวมได้ถึง 10,000 ล้านบาท และก้าวขึ้นไปอยู่อันดับที่ 7 ของอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยให้ได้จากปัจจุบันเบี้ยรับรวมอยู่ที่ประมาณ 500 ล้านบาท อยู่อันดับ 21 ของอุตสาหกรรม
“เป้าหมายการขึ้นไปอยู่ที่อันดับ 7 ของอุตสาหกรรมในอีก 7 ปีข้างหน้าด้วยเบี้ยรับรวม 10,000 ล้านบาทนั้น จะมาจากการไปซื้อกิจการหรือควบรวมกิจการรายอื่นเข้ามาด้วย แต่ในระยะแรกเราต้องแสดงให้บริษัทแม่เห็นว่าเรามีศักยภาพพอที่จะไปซื้อกิจการรายอื่นๆ ก่อน เมื่อบริษัทแม่เห็นศักยภาพเราก็จะต้องเสนอแผนต่างๆ ไปให้บริษัทแม่เป็นผู้พิจารณาต่อไป”
ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าเบี้ยประกันรับปีแรกของทุกช่องทางเอาไว้ที่ 250 ล้านบาท เติบโต 200% และในปีนี้แมนูไลฟ์จะเน้นการทำตลาดทุกช่องทาง ทั้งช่องทางตัวแทน ช่องทางการตลาดขายตรง ช่องทางแบงก์แอสชัวรันซ์ และช่องทางอื่นๆ เพื่อส่งผลให้เบี้ยรับรวมอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท ส่วนปีที่ผ่านมาบริษัทมีเบี้ยประกันรับปีแรกอยู่ที่ 79 ล้านบาท เบี้ยประกันรับรวมอยู่ที่ 500 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม โจทย์ที่บริษัทแม่ให้มานั้นจริงๆ แค่เติบโตเพียง 30% เท่านั้น แต่เมื่อเข้ามาบริหารก็ต้องการให้เติบโตมากกว่านี้ จึงตั้งเป้าเติบโตเอาไว้ที่ 200% ส่วนเรื่องการเพิ่มทุนนั้น ในปีนี้ยังไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนเพราะมีทุนจดทะเบียนอยู่แล้ว 3,000 ล้านบาท สินทรัพย์รวมประมาณ 3,000 ล้านบาท ส่วนในปี 2558 นั้นคาดว่าจะต้องทำการเพิ่มทุนอีก 300 ล้านบาทเพื่อให้เงินกองทุนสูงกว่าปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 300%
นางสาวนิกกี้ กล่าวอีกว่า บริษัทได้วางแผนในการล้างขาดทุนสะสมที่มีอยู่ประมาณ 1,000 ล้านบาทให้หมดภายในปี 2018 หรือปี 2561 ซึ่งในปีดังกล่าวเบี้ยรับรวมน่าจะอยู่ที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตภายในเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีการซื้อกิจการรายอื่นเข้ามารวม ส่วนการเข้าซื้อกิจการบริษัทอื่นขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา
“การเติบโตด้วยตัวเองในภาวะเช่นนี้ดูเหมือนค่อนข้างลำบาก เพราะในปี 2558 ก็มีการเปิดเออีซี ซึ่งจะเป็นชนวนในการให้เกิดการควบรวมกิจการมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้บริษัทแม่แมนูไลฟ์นั้นมีศักยภาพพอเพราะปัจจุบันมีทรัพย์สินกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ”
