xs
xsm
sm
md
lg

ฟันธงปี 57 หุ้นนอกยิลด์ดีสุด ธนชาตชี้เป้า US-ยุโรป-เอเชียเหนือ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ธนชาตฟันธงปีหน้าหุ้นต่างประเทศยิลด์ดี เน้นลงทุนในสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น และกลุ่มเอเชียเหนือ ส่วนหุ้นไทยราคาถูกแต่ผลตอบแทนอาจน้อยกว่า เล็งชวนคนไทยตั้งกองทุนทริกเกอร์หวังดักทำกำไร 8% มั่นใจการฟื้นตัวของเศรษฐกิจช่วยหนุน พร้อมระบุราคาทองคำปีหน้าทรงตัวและอาจปรับลดได้อีก

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ในปีหน้ากองทุนที่บริษัทจะเน้นยังคงเป็นการเติบโตในส่วนของกองทุนรวมเป็นหลัก และจะยังไม่มีการจัดตั้งกองทุนอสังหาริมทรัพย์และกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ออกมาเหมือน บลจ.อื่นๆ โดยเชื่อว่าความร่วมมือกับธนาคารธนชาตจะส่งผลให้มีการเติบโตที่ดีขึ้น เนื่องจากมีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 600 สาขา หลังมีการควบรวมกิจการกับธนาคารนครหลวงไทย

สำหรับสินทรัพย์ที่น่าสนใจลงทุนในปีหน้าจะยังคงเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนมากที่สุด รองลงมาคืออสังหาริมทรัพย์ และตราสารหนี้ ส่วนสุดท้ายจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ทั้งทองคำ และน้ำมัน โดยหุ้นที่น่าสนใจจะเป็นการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก ได้แก่ หุ้นในสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น รวมถึงหุ้นในแถบเอเชียเหนืออย่างประเทศจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน ส่วนการลงทุนในหุ้นไทยเองยังให้ความน่าสนใจจากราคาที่ปรับลดลงมา แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนในกลุ่มประเทศที่กล่าวมาข้างต้นแล้วน่าจะมีผลตอบแทนที่น้อยกว่า

สำหรับปัจจัยที่ทำให้หุ้นในประเทศทั้งสหรัฐฯ และยุโรปน่าสนใจ เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องทำให้การลงทุนในหุ้นมีโอกาสทำกำไรจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ส่วนเอเชียเหนือทั้งจีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน ถือเป็นคู่ค้าสำคัญกับสหรัฐฯ จะได้รับอานิสงส์ด้านการส่งออกที่มากขึ้นจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัว

“หุ้นในสหรัฐฯ และยุโรป เมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่รวมถึงไทยช่วง 2-3 ปีก่อนจะมีความน่าสนใจน้อยกว่า แต่หลังจากที่สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐฯ และยุโรปค่อนข้างชัดเจนขึ้น จะส่งผลให้ตลาดที่เพิ่งจะฟื้นตัวน่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีกว่า เปรียบเทียบกับหุ้นไทยที่ขึ้นมาระดับหนึ่งแล้วผลตอบแทนคงน้อยกว่า แต่ไม่ใช่ว่าไม่น่าสนใจเลยเพียงแต่เมื่อเปรียบเทียบแล้วเราให้น้ำหนักมากกว่า โดยในปีหน้ากระแสของเงินลงทุนน่าจะไหลเข้าสู่ตลาดในกลุ่มประเทศเหล่านี้มากที่สุดด้วย หลังจากไหลออกจากไทยและเอเชียไปแล้ว”

นายบุญชัยกล่าวอีกว่า สำหรับการลงทุนในต่างประเทศบริษัทมีแผนที่จะจัดตั้งกองทุนที่เป็นประเภททาร์เกตฟันด์เข้าไปลงทุน โดยตั้งเป้าผลตอบแทนเอาไว้ที่ประมาณ 8% เนื่องจากเชื่อว่ากองประเภทนี้น่าจะเหมาะสมกับภาวะการลงทุนในปีหน้า และสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนในปัจจุบันได้

“นโยบายแบบทาร์เกตฟันด์น่าจะเหมาะนำไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งระดับผลตอบแทนที่ตั้งเอาไว้ 8% ก็น่าจะเหมาะสมที่สุด เพราะเชื่อว่าการปรับตัวและเป้าที่สูงเกินไปอาจจะต้องใช้เวลาในการลงทุนมากกว่า โดยการลงทุนอาจไม่จำเป็นต้องลงทุนในกองทุนหลักในต่างประเทศ แต่สามารถตั้งกองทุนไปลงทุนได้เอง เนื่องจากมั่นใจว่าปัจจุบันข้อมูลข่าวสารค่อนข้างจะเปิดกว้างมากกว่าในอดีตทำให้ติดตามข่าวสารด้านการลงทุนได้มากกว่า” นายบุญชัยกล่าว

นายบุญชัยกล่าวอีกว่า การที่จัดอันดับให้สินค้าโภคภัณฑ์มีความน่าสนใจน้อยสุดเนื่องจากมองว่าสินทรัพย์อย่างทองคำนั้นราคาอาจไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากนัก และอาจมีการปรับตัวลดลงอีกด้วย ส่วนราคาน้ำมันถึงแม้เศรษฐกิจในกลุ่มขนาดใหญ่จะฟื้นตัวแต่ภาวะเศรษฐกิจโลกยังชะลอตัวอยู่ โดยยังต้องจับตาในส่วนของความต้องการน้ำมันและกำลังการผลิตที่ควบคุมจากกลุ่มประเทศโอเปกอยู่เป็นตัวแปรสำคัญ
กำลังโหลดความคิดเห็น