xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปี 57 ยังน่าลงทุน แนะทยอยเก็บตั้งแต่ต้นปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แนวโน้มการลงทุนที่น่าสนใจในปี 2557 ตลาดหุ้นยังเป็นที่น่าสนใจแม้ว่าจะไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเหมือนในปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศที่พัฒนาแล้ว
    
นายอดิเทพ วรรณพฤกษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการลงทุนบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน ระบุว่า ทางกลุ่มอเบอร์ดีนยังมีมุมมองที่ดีต่อตลาดหุ้นไทย โดยปัจจุบันทางกลุ่มมีเงินลงทุนประมาณ 5% ของพอร์ตหรือประมาณ 6,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีการปรับพอร์ตหรือเทขายหุ้นออกไป ท่ามกลางนักลงทุนต่างชาติที่เทขายหุ้นไทยออกอย่างต่อเนื่อง
     
ทั้งนี้ คาดว่ากำไรบริษัทจดทะเบียนจะเติบโต 10% ในปี 2557 และเมื่อรวมอัตราเงินปันผลจะอยู่ที่ประมาณ 10-15% ขณะที่สถานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนยังแข็งแกร่ง ซึ่งมูลค่าหุ้นในตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (พี/อี)เฉลี่ย 13.3 เท่า แม้จะยังมีความเสี่ยงจากเงินทุนไหลออกจากการลดคิวอีและทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน แต่หากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเริ่มปรับตัวดีขึ้นตลาดก็น่าจะยังมีเสถียรภาพ สำหรับความเสี่ยงที่ยังอยู่ในตลาดคือปัญหาที่เกิดขึ้นจากวิกฤตซับไพรม์ของสหรัฐฯ และยุโรปที่ยังมีหนี้สูง ซึ่งทั้งสองส่วนยังไม่ได้รับการแก้ไข
      
สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2557  คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นประมาณ 0.25% ในช่วงครึ่งปีหลังจากปัจจุบันอยู่ที่ 2.25% เนื่องจากประเมินว่าเศรษฐกิจในประเทศน่าจะฟื้นตัวและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้  ขณะเดียวกันคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้นในปี 2557 เติบโตประมาณ 4% จากการส่งออกที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจประเทศพัฒนาแล้ว คาดว่าโตประมาณ 7% ชดเชยการชะลอตัวลงของการเติบโตภายในประเทศ
      
นายศรชัย สุเนต์ตา รองกรรมการผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในปี 2557 มองว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีมากกว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่ หลังจากเศรษฐกิจในหลายประเทศขนาดใหญ่ฟื้นตัวดีขึ้น ทำให้เงินทุนไหลออกจากตลาดเกิดใหม่กลับเข้าไปลงทุน โดยมองว่าใน 3-4 ปีข้างหน้าตลาดหุ้นพัฒนาแล้วยังเป็นตลาดที่แลกการ์ด
    
ขณะเดียวกัน ตัวเลขจีดีพีสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดถือเป็นปัจจัยเสี่ยงตัวหนึ่งของตลาดเกิดใหม่ ทำให้ปีนี้ผลงานตลาดเกิดใหม่ไม่ค่อยดีเมื่อเทียบตลาดพัฒนาแล้ว เริ่มตั้งแต่กลางปีข่าวหยุดอัดฉีดสภาพคล่องทำให้ค่าเงินสหรัฐฯแข็งค่า เงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ ทั้งที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ไม่ได้แย่เพียงแต่กำไรจะน้อยกว่าตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว เช่นเดียวกับหุ้นไทยที่ผลตอบแทนอาจลดลง
    
สำหรับพอร์ตการลงทุนที่แนะนำ หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ปานกลาง จากปัจจุบันลงทุนในหุ้น 50% และตราสารหนี้ 50% แนะนำให้เพิ่มหุ้นเป็น 70% และลดตราสารหนี้ลงเหลือ 30% โดยลงทุนในหุ้นต่างประเทศประมาณ 70% ที่เหลือเป็นหุ้นไทย โดยตลาดหุ้นต่างประเทศที่แนะนำ ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น
    
ด้านผู้จัดการกองทุน บลจ.ยูโอบี รายงานภาวะตลาดและทิศทางการลงทุนในปีหน้าว่า เศรษฐกิจโลกโดยรวมยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ตัวเลข GDP ปี 2556 ที่ 2.9% และ 3.6% ในปี 2557 (ที่มา IMF ณ ต.ค. 2556) ด้านเศรษฐกิจยุโรปเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป มีสัญญาณบวกจากธนาคารกลางยุโรปปรับลดดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 0.50 ไปที่ร้อยละ 0.25 พร้อมกับยังคงนโยบายทางการเงินที่จะสนับสนุนการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจต่อไป
    
ด้านเศรษฐกิจไทยในปี 2557 มีแนวโน้มเติบโตต่ำกว่าประมาณการ โดยอุปสงค์ชะลอตัวลงในเกือบทุกด้าน อีกทั้งการบริโภคของภาคเอกชนที่มีแนวโน้มพักฐานนานและมากกว่าที่คาด กอปรกับความเชื่อมั่นที่ลดลงทำให้ภาคครัวเรือนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น  ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐก็ลดลงกว่าที่คาด รวมทั้งแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมีความล่าช้า
    
อย่างไรก็ตาม บลจ.ยูโอบียังคงมีมุมมองที่เป็นบวกในระยะกลางถึงระยะยาวต่อการลงทุน  ด้านการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ภาคการส่งออกที่จะเริ่มฟื้นตัวและตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้วที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นส่วนใหญ่ อีกทั้งผลประกอบการธุรกิจที่ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุน นักลงทุนสามารถเริ่มทยอยลงทุนได้ตั้งแต่ต้นปี 2557 เป็นต้นไป โดยทีมผู้จัดการกองทุน บลจ.ยูโอบีจะติดตามภาวะตลาดอย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารการลงทุนให้สามารถสร้างผลตอบแทนอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น