บลจ.ไทยพาณิชย์แนะเพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้นต่างประเทศตลาดพัฒนาแล้ว มองหุ้นไทยราคาไม่ถูกกว่านี้แล้ว ทยอยเข้าซื้อ LTF-RMF คาดปีหน้าตลาดไทยยังรับปัจจัยเสี่ยงจากการเมืองในประเทศ และเรื่อง QE สหรัฐฯ
นายศรชัย สุเนต์ตา รองกรรมการผู้อำนวยการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เหลือของเดือนธันวาคมนี้ถือว่าอยู่ในระดับราคาที่ถูกและน่าเข้าลงทุนได้แล้ว หลังจากเงินทุนต่างชาติทยอยขายออกไปตั้งแต่ต้นปี ตอนนี้ก็มีเงินที่เข้าไปลงทุนจากกองทุน LTF-RMF เป็นหลัก ดังนั้นในช่วงนี้นักลงทุนก็สามารถซื้อกองทุน LTF-RMF เพื่อใช้ลดหย่อนภาษีได้เลย เพราะระดับราคาไม่ถูกไปกว่านี้แล้ว ส่วนปีหน้ามองว่าเศรษฐกิจไทยยังเติบโตได้ กำไรบริษัทจดทะเบียนน่าจะอยู่ที่ระดับ 12% ดัชนีหุ้นไทยน่าจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,550-1,600 แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเรื่องของการเมืองในประเทศและเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐฯ เป็นหลัก
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มดูดีขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี จึงทำให้มีการคาดการณ์ว่าอาจจะมีการลดการใช้ QE เร็วขึ้นกว่าเดิมที่คาดไว้ ซึ่งทาง บลจ.ไทยพาณิชย์ มองว่า จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาดี มีการเติบโตของจีดีพีเพิ่มขึ้น แต่ยังเชื่อว่าทางธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังไม่ลดการใช้ QE เร็วเกินไปนัก เพราะยังมีปัจจัยเรื่องการชำระหนี้อยู่ที่ต้องติดตาม ดังนั้น ยังมองว่าน่าจะลดการใช้ QE ดังกล่าวลงในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้าอย่างที่คาดการณ์กันไว้
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เริ่มดีขึ้นก็ส่งผลให้เงินลงทุนส่วนใหญ่ไหลจากตลาดกำลังพัฒนากลับไปสู่ตลาดพัฒนาแล้ว ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น จำนวนมาก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยด้วย ซึ่งตั้งแต่ต้นปีเงินไหลออกไปแล้วกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่เข้ามาลงทุนตั้งแต่ปี 2009 และส่วนใหญ่ได้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทยไปสูงมาก
“ตลาดหุ้นไทยที่ให้ผลตอบแทนที่สูงมากตั้งแต่ปี 2009 ซึ่งให้ผลตอบแทนถึงปัจจุบันประมาณ 190% ทำให้เม็ดเงินลงทุนก็มีการขายออกไปอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจากนี้ไปไม่น่าจะมีแรงเทขายหนักๆ ออกมาอีกแล้ว”
นายศรชัย กล่าวต่อว่า การลงทุนในปีหน้าจึงควรให้น้ำหนักไปที่หุ้นมากขึ้นโดยเฉพาะหุ้นต่างประเทศในตลาดพัฒนาแล้ว ซึ่งให้ผลตอบแทนดีทั้งตลาดสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น แต่ก็ยังมีปัจจัยเรื่อง QE ที่ทำให้ตลาดมีการแกว่งตัวอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ตามแม้ว่าเงินลงทุนจะไหลจากตลาดเกิดใหม่ไปสู่ตลาดพัฒนาแล้วก็ตาม
แต่ตลาดเกิดใหม่ก็ยังคงมีการเติบโตอยู่ ยังสามารถลงทุนได้ แต่อาจจะให้ผลตอบแทนลดลงกว่าในช่วงปีที่ผ่านมา รวมถึงตลาดหุ้นจีนด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ในระดับที่ถูกมาก P/E ของตลาด H-Share อยู่ที่ดับ 8% จึงสามารถทยอยเข้าลงทุนได้ แม้ว่าตลาดยังไม่มีสัญญาณว่าจะปรับตัวขึ้นมาก็ตามเพราะจากนโยบายของจีนที่ต้องการลดการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังเชื่อว่าตลาดจะให้ผลตอบแทนที่สูงเมื่อเป็นขาขึ้น
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้นั้นเป็นที่ต้องจับตามอง เพราะในปีหน้าอัตราดอกเบี้ยอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง และให้ผลตอบแทนที่ไม่สูงมาก การลงทุนควรลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี