บลจ.ทหารไทยมองหุ้นไทยยังโดนต่างขายออก หลัง ศก.ชะลอและปัญหาการเมือง แนะแบ่งเงินลงทุนหุ้นประเทศพัฒนาแล้ว ชู กองทุน World Equity Index เม็ดเงินเข้าลงทุนมากหลังผลตอบแทนดี
นายไพศาล ครุฑดำรงชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า บรรยากาศการลงทุนในช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงซื้อเข้ามาในช่วงปลายปีนี้อีกประมาณ 2-3 หมื่นล้านบาท จากการลงทุนในกองทุน LTF-RMF ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นมีการปรับตัวขึ้นมาได้ แต่ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงขายจากต่างชาติออกไปจากหุ้นไทยอยู่ เพราะเงินไหลเข้าไปสู่ตลาดที่พัฒนาแล้ว หรือตลาดอื่นในเอเชียที่มีการเติบโตดี อย่างฮ่องกง เกาหลี หรือมาเลเซีย เป็นต้น ซึ่งตั้งแต่ต้นปีนักลงทุนต่างประเทศมีการขายออกไปแล้วประมาณ 150,000 ล้านบาท แต่มองว่าเงินลงทุนจะกลับเข้ามาใหม่ในปีหน้า
ทั้งนี้ สถานการณ์ของการเมืองในขณะนี้มองว่ายังไม่น่าจะส่งผลอะไรรุนแรงต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย แต่หากเกิดสถานการณ์รุนแรงจะส่งผลต่อหุ้นไทยได้ แต่ต้องดูต่อไปว่าหลังจากนี้เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป หากมีการชุมนุมยืดเยื้อต่อไปและไม่มีความรุนแรงก็ไม่น่าจะส่งผลอะไรต่อเศรษฐกิจและการลงทุนมากนัก
“ตลาดหุ้นไทยในช่วงเดือนธันวาคมนี้มองว่ายังมีแรงขายจากต่างชาติอยู่ เพราะสาเหตุจากเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง รวมทั้งปัญหาเรื่องการเมือง เงินทุนจึงไหลกลับเข้าไปสู่ตลาดพัฒนาแล้ว อย่างสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น”
นายไพศาล ยังกล่าวว่า ตลาดหุ้นประเทศพัฒนาแล้วตอนนี้มีความน่าสนใจเพราะเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่เงินไหลกลับไปลงทุนเยอะ ดังนั้น การลงทุนในช่วงนี้หากต้องการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี ก็ซื้อกองทุน LTF-RMF ที่ลงทุนในหุ้นไทย และหากเหลือเงินส่วนหนึ่งก็แบ่งไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ
โดยในส่วนของ บลจ.ทหารไทย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในกองทุน กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกทั้งสหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และให้ผลตอบแทนที่ดีตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นอกจากนี้กองทุนยังไม่ปิดความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ลูกค้าจึงได้ผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วยอีกต่อหนึ่ง
ล่าสุด ณ วันที่ 2 ธันวาคม 2556 กองทุนเปิดทหารไทย World Equity Index ให้ผลตอบแทน 1 ปีอยู่ที่ 29.38% เทียบกับดัชนี MSCI World (สกุลเงินบาท) อยู่ที่ 29.50% และเมื่อเทียบกับดัชนี MSCI World (สกุลเงินยูโร) อยู่ที่ 18.07%