xs
xsm
sm
md
lg

“ใหญ่ HI” จากแมลงเม่าตัวพ่อสู่นักลงทุนแบบ Happy Investor (ชมคลิป)

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เจาะพอร์ตคนดังสัปดาห์นี้ขอพาไปเจาะลึกอดีตแมลงเม่าตัวพ่ออย่าง “ใหญ่” โอภาส ถิรปัญญาเลิศ ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการตลาดหุ้นไทย เขาคนนี้เคยประสบความสำเร็จและล้มเหลวเพราะตลาดหุ้น และหลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาจากการแข่งขันโครงการ The Stock master ซึ่งเขาเป็นผู้ชนะการแข่งขันคนแรกของประเทศไทย รวมถึงยังเป็นผู้เขียนหนังสือ “พลิกพอร์ตหุ้นใหญ่ HI”     



ใหญ่เริ่มต้นเล่าให้เราฟังว่า ผมเข้าสู่ตลาดหุ้นเมื่อปี 2547 และล้างมือไปในปี 2551 มันก็เหมือนล้างมือในอ่างทองคำ มันเป็นคำพูดที่ดูหรูหรานะ แต่จริงๆ เลยก็คือ เจ๊ง หรือไม่ประสบความสำเร็จนั่นเอง ส่วนสาเหตุที่ทำให้ผมขาดทุนนั้นก็คือ ผมเล่นหุ้นจริงๆ เล่นแบบไม่มีความรู้อะไรเลย คือซื้อตามคำบอกเล่าของคนอื่น ซึ่งช่วงปี 2547 เป็นช่วงตลาดหุ้นบูมมาก อีกอย่างช่วงนั้นเงินฝากให้ดอกเบี้ยน้อย ผมก็คิดว่าเอาเงินไปลงทุนอะไรได้ผลตอบแทนที่มากกว่านั้นก็คือ ตลาดหุ้น ผมก็ซื้อตามโบรกเกอร์ ตามเพื่อน ตามคำบอกเล่าว่าเจ้าจะลาก ช่วงแรกๆ ก็กำไรนะ ผมว่ามันเป็นกฎของตลาดหลักทรัพย์คือเข้ามาลงทุนแรกๆ มันจะกำไร 3-4 เดือน กำไรง่ายจัง ลงทุนแค่ 2-3 วันกำไรเข้าหลักหมื่น หรือบางช่วงกำไรเข้าสูู่หลักแสน ผมก็เริ่มเอาเงินมาลงทุนมากขึ้น แต่เราไม่ได้มีความรู้มากขึ้นเลย

“ผมเนี่ยแมลงเม่าตัวพ่อเลยนะ คืออะไรที่แมลงเม่าทำเนี่ยผมทำหมดเลย ซื้อตามข่าว ซื้อตามเจ้าบอก ซื้อตามเขาบอก มาร์เกตติ้งให้ตัวย่อมาบอกให้ซื้อเลย ผมก็ซื้อโดยไม่รู้ว่ามันคืออะไร และทำธุรกิจอะไร และที่สำคัญเลยไม่ยอม Cut Loss บางตัวเราขาดทุนมากๆ มันลงไปมากเพราะมันเป็นหุ้นปั่น แต่เราก็ยังถืออยู่”
    
หลังจากนั้นปี 2551 ก็หยุดไปและกลับไปให้ความสนใจกับงานประจำคือบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ทำงานแบบเต็มตัว และบริษัทรับตกแต่งภายใน ซึ่งเป็นธุรกิจส่วนตัว ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นนั้นก็ทิ้งไปเลยไม่เคยกลับไปสนใจมันอีก เงินที่ลงทุนในตลาดหุ้นผมก็เอาออกมาหมดเเล้วไปซื้อคอนโดฯ ให้เช่า ตอนนั้นก็ถือว่าโชคดีที่การลงทุนคอนโดฯ ให้เช่านั้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ยปีละ 10%
    
และแล้วเขาก็กลับมา “ใหญ่” บอกถึงเหตุผลที่กลับเข้ามาตลาดหุ้นอีกครั้งในปี 2554 ว่า งานประจำเริ่มเบาลง เราเริ่มมีเวลามากขึ้น มีโอกาสที่จะอ่านหนังสือได้มากขึ้น หนังสือที่ทำให้ผมกลับมาสำเร็จได้คือ ตีแตก ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ทำให้ผมลงทุนหุ้นแบบมีความรู้ และแสวงหาหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนมาอ่านมากขึ้น ไปอบรมสัมมนาแบบฟรีและเสียเงินเพื่อพัฒนาความรู้ของตัวเอง หลังจากนั้นก็คิดว่าตัวเองจะเป็นนักลงทุนแนว VI  แต่ไปๆ มาๆ ก็คิดว่าแนวนี้อาจจะไม่เหมาะต่อเราอีกเพราะเราก็ซื้อหุ้นบางตัวก็ไม่ใช่ต้นทุนที่ถูกแล้ว ก็ตัดสินใจมาศึกษาเรื่องเทคนิคัลมากขึ้น ทำให้การลงทุนของผมเป็นสไตล์ผสมผสาน พื้นฐานด้วย เทคนิคัลด้วย
    
“ตอนนี้ถ้าจะให้นิยามตัวเองว่าเป็นนักลงทุนแบบไหน ผมบอกได้เลยว่าเป็นแบบ HI หรือ Happy Investor ไม่ใช่ Value Investor หรือ Technical Investor ซึ่ง Happy Investor นั้นลงทุนยังไงก็ได้ให้มีความสุข แล้วต้องมีกำไรด้วย มีความสุข สนุก และมีกำไรไม่ใช่เฉพาะเรื่องหุ้นอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องของการทำงานด้วย”
    
สำหรับหน้าที่การทำงานตอนนี้ผมเองก็ไม่ได้ทำงานประจำ แต่เป็นฟรีเเลนซ์ เป็นนักเขียนให้สำนักพิมพ์  Stock2morrow เป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ เม่าปีกเหล็ก ของกรุงเทพธุรกิจทีวี และเป็นบรรณาธิการหนังสือแปลร่วมกับ  Stock2morrow ด้วยเช่นกัน ต้นปีหน้าจะออกหนังสืออีก 2 เล่ม รวมถึงยังเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และการตลาดให้แก่บริษัท อาคเนย์ เดคคอร์ด จำกัด เกี่ยวกับธุรกิจตกแต่งภายในให้แก่โรงแรม เป็นต้น
    
ใหญ่บอกเล่าวิธีการเก็บออมและจัดพอร์ตว่า พอร์ตของผมจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ พอร์ตอสังหาริมทรัพย์ 50% ก็คือซื้อคอนโดฯ ให้เช่า แบ่งเป็นชานเมือง และคอนโดฯ ในเมือง ส่วนพอร์ตหุ้นอีก 50% ในส่วนหุ้นนี้จะแบ่งเป็นหุ้นปันผล 40% ลักษณะนี้คือถือยาวไม่ขายแม้ว่ากราฟไม่สวยแต่จะถือยาวไว้เก็บปันผล อีก 40% จะเป็นพอร์ตเทคนิคัล จะเน้นเล่นยาวหน่อย อีก 20% เป็นพอร์ตเล่นสั้นๆ และถือเป็นเงินสำรองหากเห็นโอกาสก็ลงทุน
    
ก่อนจากกันเขาทิ้งท้ายข้อเตือนใจสำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่กำลังเข้าสู่สมรภูมิตลาดหุ้นไว้ว่า ผมว่าทุกคนที่เข้าจุดมุ่งหมายแรกคืออยากรวย แต่ผมจะบอกว่าจุดมุ่งหมายของคุณอย่าไปเปรียบว่าต้องรวย แต่ผมอยากให้คุณมีความสุข สนุก แล้วค่อยมีกำไร นี่คือเป้าหมายของคุณ สิ่งที่ทำให้มี 3 อย่างนี้ได้คือคุณต้องมีความรู้ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม อ่านหนังสือมากๆ ทั้งพื้นฐาน ทั้งเทคนิคัล คุณก็จะตกผลึกว่าการลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับเรา ไปอบรมสัมมนาบ้าง รวมถึงการมีสังคมที่ชอบเหมือนๆ กัน อย่าลงทุนคนเดียว คุณอย่าคิดว่าเล่นหุ้นคนเดียวแล้วจะกำไรมากๆ เป็นไปได้ยากมาก เพราะสังคมต้องมีการแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันนั่นเอง



กำลังโหลดความคิดเห็น