“เฉลิม” เรียก ผบ.ตร.พร้อมนายตำรวจระดับสูงกำชับสืบสวนทางลับให้ชัดคดีการเสียชีวิตของ “เอกยุทธ” พร้อมสั่งดูแลการชุมนุมทางการเมือง หวั่นสร้างสถานการณ์ความรุนแรง อ้างข้อมูลเจ้าของโรงแรมเตี้ย-ดำหนุนการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาล ลั่นไม่ยอมความฟ้องเรียกค่าเสียหาย “เรืองไกร” 50 ล้านบาท ฐานหมิ่นประมาทกล่าวหาครอบครองรถผิดกฎหมาย
วันนี้ (18มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเรียกผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเข้าหารือเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) ที่ผ่านมาว่า ได้หารือใน 3 เรื่องคือเรื่องการเสียชีวิตของนายเอกยุทธ อัญชัญบุตร โดยให้ทางตำรวจหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ให้กองปราบไปสอบสวนในทางลับว่าข้อเท็จริงของกองปราบและพนักงานสอบสวนแตกต่างกันอย่างไร นอกจากนั้นให้ติดตามการวางระเบิดบริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 เบื้องต้นคาดว่ามีสาเหตุเชื่อมโยงกับการเมืองและได้สั่งการให้เฝ้าระวังดูแลการเมืองโดยเฉพาะกลุ่มต่างๆ
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ส่วนเรื่องการชุมนุมมของกลุ่มหน้ากากขาวและกลุ่มชุมนุมทุกกลุ่มได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างเต็มที่ และสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความสะดวกแต่ให้ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยโดยเฉพาะการป้องกันปัญหามือที่ 3 ที่อาจสร้างสถานการณ์ก่อความรุนแรง ว่าจะก่อเหตุหรือไม่ ยกตัวอย่างหากใครไปเดินแถวเซ็นทรัลเวิลด์แล้วมีใครไปโยนระเบิดสักลูกมันจะเกิดผลในทางกว้างและคนก็จะมองมาที่รัฐบาลถ้าตนพูดก็หาว่าขู่ ไม่ได้ขู่ จึงต้องบอกไว้ก่อนว่ามีความเป็นไปได้ทางตำรวจจึงต้องระวัง เพราะการเมืองวันนี้เล่นกันแรงไปไม่ยึดกฎกติกา ประชาธิปไตย ปากก็บอกว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยยึดมั่นในระบบรัฐบาล และเมื่อวานที่ทำกันอยู่มันมีมั้ยในบทบัญญัติรัฐธรรมมนูญและรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็พวกรับใช้เผด็จการก็ยกร่างขึ้นมา ยืนยันว่าตนและตำรวจไม่ใช้ความรุนแรงแต่พฤติกรรมมันใช้ไม่ได้
"นี่มีเพิ่มมาอีกคนแล้วเจ้าของโรงแรมเพียงแต่เอาเงินจ่าย ทั้งหมดที่ผมบอกไปจริงหมด คือมันต้องมีกฎเกณฑ กี่ครั้งที่คุณแพ้เลือกตั้ง แล้วคุณก็มาใช้วิธีการอย่างนี้มันไม่ดีหรอก คุณจะหน้ากากอะไรก็แล้วแต่ ทำไมคุณไม่ตั้งพรรคหล่ะ หากคุณยกย่องใครคุณประกาศตัวมาเลย พวกที่เคลื่อนไหวทุกวันนี้อยากให้นายดำ นายแดง นายขาวเป็นนายกฯคุณบอกให้รัฐบาลลาออก มีรัฐธรรมนูญมาตราไหนที่คนนอกบังคับได้ มันต้องแพ้อภิปราย มันต้องรัฐบาลตัดสินใจลาออกหรือไม่มีวิธีอื่น อย่างนี้มันไม่ถูกต้อง" ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เมื่อถามว่า ในเมื่อรู้ข้อมูลแล้วว่าใครเคลื่อนไหวทำไมไม่ดำเนินการทางกฎหมาย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงถ้าเคร่งครัดในบทบัญญัติของกฎหมาย พวกหัวโจกติดคุกหมด แต่พอทำไปก็มาหาว่าเผด็จการ ถ้าใช้กฎหมายติดคุกหมด คุณล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไรเขาห้ามอยู่แล้ว ใครทำถือว่าเป็นกบฎ พอรัฐบาลทำก็หาว่าเกเร ตนอ่านบทความและการแสดงความคิดเห็นของอาจารย์คนหนึ่งที่บอกว่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร เสียชีวิตเหมือนกับอดีต 4 รัฐมนตรีตนถามว่าเอาส่วนไหนของสมองมาคิด เป็นแต่เพียงพวกคุณไม่ชอบพ.ต.ท.ทักษิณก็มาปั่นบ้านป่วนเมือง จนมีการปฎิวัติ รัฐธรรมนญปี 50 พวกคุณก็แพ้แล้วมาบอกว่าพวกตนโกงเลือกตั้ง โกงอย่างไรเราเป็นฝ่ายค้าน
เมื่อถามว่าเมื่อเหตุการณ์การชุมนุมเป็นอย่างนี้จะต้องรอถึงจุดไหนจึงจะดำเนินการ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องรอจนถึงที่สุด ตนไม่เข้าใจหนังสือพิมพ์บางฉบับเห็นดีเห็นงามกับพวกนี้ได้อย่างไรมันไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนรัฐบาลจะดูแลคนส่วนใหญ่ของสังคมอย่างไรนั้น เรื่องนี้คือปัญหา เมื่อวานกร่างๆจับได้แล้วตนกำลังดูอยู่ไม่ได้ขู่เพราะพวกนี้ขู่ไม่ได้ มันขู่รัฐบาลมันไม่อายบ้างหรืออย่างไรว่าแพ้เลือกตั้ง ครั้งหน้าก็แพ้อีก พวกนี้ไม่เคารพกติกา อย่างไรก็ตามตนพยามดูให้ดีที่สุด
ต่อข้อถามว่ารัฐบาลจะดูแลการชุมนุมอยางไร ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า การชุมนุมรัฐบาลมีหน้าที่ดูแลอยู่แล้ว แต่คนชุมนุมก็ต้องเคารพกติกา ไม่ใช่หน้ากากขาวอะไรหรอกพวกพันธมิตรฯพรรคประชาธิปัตย์แปลงร่างมานี่แหละ รัฐบาลนี้ล้มยากซะที่ไหนเล่าขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้ล้มยาก สุดท้ายหน้ากากขาวก็เหนื่อยเปล่า คุณจะเอาช่องทางไหนมาเปลี่ยนรัฐบาลไม่อายอารยประเทศบ้าง
"ผมรู้ว่าใครทำการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลรู้หมด ชุดเก่า95เปอร์เซ็นต์พวกนี้หวังฟลุ๊ค แต่เดี๋ยวนี้มันยากที่จะล้มรัฐบาลเพราะมาจากการเลือกตั้ง ตนพบว่ามีเจ้าของธุรกิจโรงแรมลักษณะเตี้ย-ดำ ให้การสนับสนุนการเคลื่อนไหวล้มรัฐบาลและขอให้คนที่อยู่เบื้องหลังเปิดเผยตัวออกมา เป็นหน้ากากขาวแปลงร่างอับอายเขาบ้างซิ ประพฤติตัวอย่างไรทำตัวเป็นคนมีความรู้ แต่ไม่เข้าใจประชาธิปไตยทำไมคุณไม่ตั้งพรรค คุณชอบใครก็ชูมาเลย หากชนะก็เป็นรัฐบาลไปเลย"รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้ทางตำรวจดูแลพื้นที่และเวลาปลดอาวุธไม่ต้องเกรงใจใครเพื่อความปลอดภัยของทุกฝ่าย และเน้นให้จับคนวางระเบิดรามคำแหงให้ได้จะได้เคลียร์ ทุกอย่างเป็นการเมือง มันรอไม่ได้ แน่ๆรออีกหกปี รอไม่ได้ จึงจะใช้วิธีฟาสฟู๊ด พร้อมเปิดเผยถึงการแก้ปัญหาความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดภาคใต้ว่า ในวันนี้ตนจะไปเยี่ยมกอ.รมน. และวันที่28มิ.ย.จะประชุมศปก.กปต.ลงมือทำงานเต็มที่ ทั้งนี้จะมีการประชุมให้มากขึ้น
นอกจากนี้ร.ต.อ.เฉลิม ยังกล่าวถึงการนำเข้ารถหรูผิดกฎหมายว่า ขณะนี้ตนได้ดำเนินการฟ้องร้องนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ในข้อหาหมิ่นประมาท โดยจะฟ้องแพ่งแค่ 50 ล้านบาทพร้อมกับ หนังสือพิมพ์4ฉบับ คือ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ แนวหน้า ไทยโพสต์ และเอเอสทีวีผู้จัดการ เพราะรู้ข้อความเท็จแต่ก็นำมาลง โดยกล่าวหาว่าตนครอบครองรถหรูหนีภาษี โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดจนกว่าจะมาขอโทษตน
“ไม่ให้เกียรติผมไม่เป็นไรเเพราะผมไม่มีราคา แต่ต้องให้เกียรติตำแหน่งรองนายกฯ ผมเป็นรองนายกรัฐมนตรีจะมาขับรถเถื่อนจะบ้าเหรอ” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว