xs
xsm
sm
md
lg

พท.เชื่อฝ่ายค้านซ้อมซักฟอก เวทีแถลงผลงาน-เล็งสอบประโยชน์ทับซ้อนยาง ปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย(แฟ้มภาพ)
“เด็จพี่” เผยพรุ่งนี้ พท.เรียก ส.ส.ซ้อมคิวแถลงผลงานรัฐ เชื่อฝ่ายค้านซ้อมย่อยก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยัน ลุยโหวตวาระ 3 ที่มา ส.ว.สั่ง ส.ส.งดภารกิจกำชับเข้าประชุมให้ครบองค์ ป้อง “ยิ่งลักษณ์” ปัดเมินส่งคนเจรจาม็อบยาง ย้อนฝ่ายค้านบิดเบือนสร้างความแตกแยก ปูด “สุเทพ” พร้อม ส.ส.ปชป.มีสวนยาง-ปาล์ม หมื่นไร่ จี้ถามมีประโยชน์ทับซ้อนม็อบยางหรือไม่ ยัน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน ไม่ขัด รธน. ซัดพวกต้านอย่าขวางความเจริญประเทศ

วันนี้ (22 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า พรรคเพื่อไทยได้เรียกประชุม ส.ส.และสมาชิก ในวันจันทร์ที่ 23 ก.ย. 56 ในประเด็นแถลงผลงานของรัฐบาล ในวันที่ 24-25 ก.ย. 56  โดยเชื่อว่าฝ่ายค้าน เตรียมผู้อภิปรายถึง 60 คน และคงเป็นเวทีซ้อมย่อยในการอภิปรายไม่ไว้วางใจย่อย  ทั้งนี้จะมีการทำความเข้าใจ ส.ส.ถึงการอภิปราย วางกรอบ กำหนดคน ที่จะอภิปราย เพราะเชื่อว่าจะมีการพาดพิง  และยืนยันว่า จะไม่มีการตั้งองครักษ์นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี แต่หากมีการพาดพิงบุคคลภายนอก ก็จะมีการประท้วงบ้าง  นอกจากนี้จะกำชับให้ ส.ส.สมาชิก เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง และให้ ส.ส.งดภารกิจตั้งแต่วันที่ 24-28 ก.ย. อย่างไรตามเรื่องกางลงมติวาระ 3 การแก้รัฐธรรมนูญ ที่มาของส.ว.วิปรัฐบาลได้ประสานทางพรรคว่า จะมีการประชุมในวันที่ 28 ก.ย.และลงมติในวาระ 3 ซึ่งกำชับ ส.ส.ให้เป็นองค์ประชุม เพราะจะมีการลงมติด้วยการขานชื่อ

                นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ออกมาให้ข่าวว่า การแก้ไขปัญหาม็อบสวนยาง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นคนที่ไม่ให้มีการเจรจา หลังตัวแทนพรรคประชาธิปัตย์ พบ นายวิสาร เตชะธีรวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่ตรวจสอบทั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายวิสาร  ไม่มีใครพูดเรื่องนี้  เป็นบิดเบือนข้อเท้จจริงให้เกิดความแตกต่างในหมู่พี่น้องชาวสวนยาง 

                นายพร้อมพงศ์ กล่าวต่อว่าได้ตรวจสอบว่าขณะนี้ในเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช มีประชาชนมาขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 7 หมื่นราย ซึ่งในวันที่ 24 ก.ย.นี้ จะมีการจ่ายเงินชดเชย  450 รายแรก  จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนว่ารัฐบาลมีความจริงใจ  แต่สิ่งที่ นายอภิสิทธิ์ บิดเบือน ทำตัวเป็นบ่าง เสี้ยมให้เกิดความขัดแย้ง โดยเฉพาะในภาคใต้   อย่างไรก็ตามตนได้ตรวจสอบข้อมูลที่มีปัญหาอยู่ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ว่ามีการชุมนุมของวัยรุ่นจากนอกพื้นที่ 70 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมาจากจังหวัดใกล้เคียง อาทิ พัทลุง ตรัง สงขลา ชุมพร สุราษฎร์ จึงอยากถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุม มีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่

นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณี ส.ส.ใต้พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร่วมกันแถลงข่าวเรียกร้องการช่วยเหลือพี่น้องชาวสวนยางและปาล์ม ที่รัฐสภา ว่า เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าแถลงแล้วมีผลประโยชน์ทับซ้อน และอ้างเกษตรกร เพราะล่าสุดตนไปดูข่าวจากเว็บไซต์ กรุงเทพธุรกิจ พบว่า มี ส.ส.ใต้พรรคประชาธิปัตย์ ทำสวนยางจำนวนมาก  แต่ในขณะนี้มีพี่น้องชาวสวนยางออกมาตอบรับการดำเนินการของรัฐบาลกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ และอีก 5 เปอร์เซ็นต์ บอกไม่ยอมรับ  ซึ่งฝ่ายค้านกำลังมองว่ารัฐบาลมีปัญหา แก้ไขไม่ตรงประเด็นและไม่ตอบโจทย์  

ทั้งนี้ตนได้ไปตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ของ ส.ส.ภาคใต้ พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี มีรายได้จากสวนยางและสวนปาล์ม กว่า 41 ล้านบาท นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ นายเชน เทือกสุบรรณ นายธานี เทือกสุบรรณ นายเจือ ราชสีห์ นายไตรงรงค์ สุวรรณคีรี  นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ล้วนแล้วแต่มีรายได้จากการทำสวนยางและสวนปาล์ม  จึงน่าแปลกใจว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน ประกอบอาชีพทำสวนยางสวนปาล์ม และมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ ตนจึงตั้งข้อสังเกตและถามว่า นายสุเทพ มีสวนยางและสวนปาล์ม นับหมื่นไร่หรือไม่ จึงมีรายได้กว่า 41 ล้านบาท 

นอกจากนี้ตนได้ให้ทีมกฎหมายตรวจสอบ และอาจยื่นเอาผิดบุคคลเหล่านี้  ที่แสดงบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.ว่า ทำสวนยาง สวนปาล์ม และอ้างให้พี่น้อง สุดท้ายเรียกร้องเพื่อตัวเองหรือไม่  และตนจะไปตรวจสอบว่าถือครองอยู่จำนวนเท่าใด

โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อถึงกรณี พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ที่ผ่านวาระ 3  และพรรคประชาธิปัตย์ จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่า ขัดต่อรัฐธรรมนูญ หมวด 8 ว่าด้วยวินัย การเงินการคลัง ว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ได้ตรวจสอบว่า ไม่ขัดโดยเฉพาะมาตรา 169 ตนมองว่า ขี้แพ้ชวนตี เพราะแม้แต่เสียงภายนอก ทั้งเอกชน ประชาชน ต่างประเทศ อยากเห็น  แต่พรรคประชาธิปัตย์จะยื้อ อยากให้ค้านอย่างสร้างสรรค์  สิ่งไหนดีควรสนับสนุน  เพราะหากผ่านวุฒิสภา มีการทำโครงการ ก็มาตรวจสอบ ได้ว่ามีการทุจริตหรือไม่

                นอกจากจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ยังไปขึ้นเวทีผ่าความจริง  ตนจึงอยากให้ขึ้นป้ายไปเลย ว่า หากเป็นรัฐบาล จะไม่เอาโครงการ กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท โครงการจัดการน้ำ งบประมาณปี 57  อย่างไรก็ตามการยื่นเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ขออย่าให้ฝ่ายค้านเอาแต่ขวางความเจริญของประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น