xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” บี้รัฐต้องเข้าใจปัญหายาง ชี้ “ปู” เบรก มท.3 คุย จี้ระงับกู้ เหตุจำนำข้าวทำพิษ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
หน.ปชป.ระบุม็อบยางถูกยัดม็อบการเมือง ชี้รัฐฯ เข้าใจปัญหาถึงแก้ถูกจุด แจง “นิพิฏฐ์” ลงไปดู ปชช.เหตุห่วงใย ไม่เกี่ยวพรรคชักใย เตือนสลายมีแต่บานปลาย กก.90 บ.ช่วยไม่ทั่วถึง บี้รับผิดชอบการกระทำหยุดใส่ร้าย ชี้ “ยุคล” เหมาะลงพื้นที่เชื่อแก้ได้ คาด “ปู” เบรก “วิสาร” พบ ปชป. ดักเชื่อมีชักใยอย่าคุย-ติงนายกฯ-พณ.จ้อจำนำข้าวไม่ตรงกัน ชี้ปัญหาลุกลามกระทบการเงินรัฐ ลั่นเป็นไปไม่ได้อนุมัติ 2.7 แสนล้านในกรอบ 5 แสนล้าน จี้ยอมรับจำกัดวงเงินไม่ได้ งบไร้สมดุล ต้องหยุดกู้ 2 ล้านล้าน



วันนี้ (18 ก.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีการชุมนุมของเกษตรกรสวนยาง ที่สี่แยกควนหนองหงษ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่าเป็นห่วงอยู่ในขณะนี้ว่ามีความพยายามที่จะทำให้เป็นม็อบการเมืองบ้าง หรือเป็นม็อบที่ต้องการให้นำไปสู่การล้มรัฐบาล ที่จริงแล้วอยากให้ทางรัฐบาลเข้าใจว่ายังมีชาวสวนยางจำนวนไม่น้อยที่ยังมีปัญหากับแนวทางการช่วยเหลือของรัฐบาล นอกจากนี้ผู้ชุมนุมยังเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว ถ้าเข้าใจอย่างนี้ก็จะทำให้แก้ปัญหาได้ถูกจุด

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง ปชป.ได้ขออนุญาตที่จะเข้าไปดูพื้นที่ด้วยความห่วงใยในสถานการณ์ ไปแบบเปิดเผย และให้รับทราบด้วยว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ว่ามีนักการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่ ส.ส.ในพื้นที่มีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของประชาชน ที่ดีที่สุดคือรัฐบาลต้องเอาคนที่มีความรับผิดชอบในเรื่องยางไปไล่เรียงว่ามาตรการที่ยังไม่ตอบโจทย์จะมีการปรับปรุงหรือให้ความมั่นใจได้อย่างไร แต่ถ้ารัฐบาลพยายามที่จะตั้งธงว่าต้องสลายการชุมนุมเพราะเป็นม็อบนั้นม็อบนี้เกรงว่าเหตุการณ์จะบานปลาย ส่วนท่าทีที่จะยืนกระต่ายขาเดียวไม่เจรจาอีกนั้นก็ต้องย้อนกลับไปดูว่าตอนเจรจานั้นข้อตกลงอยู่ที่ 90 บาทแต่ถ้ามาตรการนี้ยังไม่สามารถช่วยเหลือบางกลุ่มได้รัฐบาลก็ต้องเข้าไปดูว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร สำหรับผู้ชุมนุมที่ถูกมองว่าเป็นผู้ร้ายนั้นตรงนี้น่าเป็นห่วง เพราะจะทำให้เกิดความตึงเครียดมากขึ้น ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องหาข้อเท็จจริงอย่างตรงไปตรงมาให้ชัดเจน รัฐบาลต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง หากรัฐบาลจะใช้วิธีการโฆษณาชวนเชื่อจนนำไปสู่ความรุนแรงมันก็จะไม่เป็นผลดี รัฐบาลควรมอบหมายผู้ที่เกี่ยวข้องไป และคนที่พยายามให้ข่าวว่ามีเบื้องหลังขอให้หยุดใส่ร้ายป้ายสี โดยตนคิดว่าหากมีเหตุการณ์ตามที่รัฐบาลบอกจริงก็ให้ดำเนินการไปตามกฎหมาย ทั้งนี้คิดว่าการลงไปพูดคุยจะสามารถแก้ปัญหาได้ เพราะหากยังลากไปอย่างนี้ความตึงเครียดจะมีมากขึ้น เพราะทุกครั้งที่มีการปะทะกัน ส.ส.ก็มารายงานว่าอารมณ์ของคนในพื้นที่ก็จะมากขึ้น

เมื่อถามว่า ใครที่ควรเป็นผู้ลงไปเจรจา นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เบื้องต้นน่าจะเป็นนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะเป็นผู้ที่รับผิดชอบโดยตรง ส่วนนายธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เคยไปให้ข่าวที่เกิดความตึงเครียดขึ้นมาหลายครั้ง สำหรับนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่บอกว่าจะมาพบกับ ส.ส. เข้าใจว่านายกฯ คงไม่เห็นด้วย เพราะตนอ่านข่าวเห็นว่ามีการปรารภในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วนายกฯ ไม่เห็นด้วย และหากนายวิสารเชื่อตามที่นายธวัชพูดว่ามี ส.ส.อยู่เบื้องหลัง ก็ไม่ต้องมาพบ เพราะไม่มีมูลความจริง แต่ถ้าอยากมาขอคำแนะนำเราก็ยินดีให้ข้อมูล และที่ไปเจราเมื่อครั้งที่แล้วตนเข้าใจว่าคุยกันเรื่อง 90 บาท แต่พอทำแล้วไม่เป็นเรื่องนั้นจึงทำให้เกิดปัญหา ขณะที่การชุมนุมไม่ได้มีผู้นำที่ชัดเจนจึงมีความต้องการหลายกลุ่ม

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงโครงการรับจำนำข้าวที่มีการพูดไม่ตรงกันระหว่างนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยนายกฯบอกว่าเป็นกรอบกว้างๆ ในการตกลงกับจีนแต่ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์บอกว่าจะมีการทำสัญญา ว่าหากมีสัญญาก็สามารถเปิดเผยได้อยู่แล้วว่ามีการทำสัญญา การส่งมอบ การส่งออกก็ต้องยันออกมา ตัวนี้ก็จะเป็นตัวพิสูจน์ที่ง่ายที่สุด

เมื่อถามว่า สถานการณ์จำนำข้าวจะลุกลามบานปลายไปถึงเรื่องการคลังของประเทศหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันลุกลามมาระยะหนึ่งแล้ว และทำให้รัฐบาลมีปัญหาแน่นอนในเรื่องของการหมุนเงิน และฐานะการเงินการคลัง เพราะก่อนหน้านี้รัฐบาลเคยบอกว่าไม่มีการเอาเงินไปหมุนเกิน 5 แสนล้าน ซึ่งตอนนี้ก็ไม่ใช่แล้ว ก็เห็นว่ามันลุกลามไป และหลังจากที่มีข่าวตัวเลขปิดบัญชีหลังจากนั้นก็มีปัญหามากไม่สามารถสรุปปิดบัญชีในรอบหลังๆได้ เพราะตัวเลขมันมีปัญหา

เมื่อถามต่อว่า ที่นายกยืนยันว่า 2.7 แสนล้านที่มีการอนุมัติใหม่อยู่ในกรอบวงเงิน 5 แสนล้านเดิมนั้นเป็นไปได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ และเห็นว่ามีคนเริ่มพูดแล้วว่า 5 แสนล้านนั้นหมายถึงต่อรอบ หรือต่อปี ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถคุมให้อยู่ใน 5 แสนล้านตามเดิมได้แล้ว ในส่วนของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะก็เป็นกังวลเพราะมีการขยายวงไปเรื่อย เนื่องจากปัญหาพื้นฐานไม่ได้แก้ไข โครงการมีปัญหา แต่รัฐบาลไม่ได้สนใจ คิดอย่างเดียวคือการไปลดราคาจำนำ ตนคิดว่ารัฐบาลต้องยอมรับว่าตอนนี้วงเงินที่คิดว่าจะจำกัดได้นั้นมันจำกัดไม่ได้ ซึ่งจะขยายไปสู่หนี้สาธารณะที่จะขยับขึ้น ทางสำนักหนี้ก็ยอมรับเองว่าที่บอกว่าจะสมดุลในปี 60 นั้นก็จะทำไม่ได้ และอาจกระทบถึงเงินกู้ 2 ล้านล้านด้วยที่หลายอย่างไม่ตรงกับสมมตฐานในวาระแรก ในวาระ 2 ตนก็ได้ขอแปรญัตติไว้ว่า ถ้ารัฐบาลไม่สามารถทำงบให้สมดุลได้ หรือหนี้สาธารณะเกินกรอบที่รัฐบาลแถลงไว้รัฐบาลต้องหยุดการดำเนินการ


กำลังโหลดความคิดเห็น