ปชป.ตั้งคณะทำงานเกาะติดรัฐบาลแก้ปัญหายางพารา รายงาน “อภิสิทธิ์” วันต่อวัน ปัดอยู่เบื้องหลังม็อบเกษตรกร ดีเดย์ลงโคออป 4 ก.ย.นี้ อัดมติ ครม.ขอราคายางได้แค่ค่าปุ๋ย เตือนใช้แกนนำสร้างภาพปัญหาอาจบานปลาย เผยเบื้องหลังจำต้องยื่นมือช่วยชาวบ้านรักษาฐานมวลชน สงสารชาวบ้านมาเพราะเดือดร้อนจริงๆ
วันนี้ (3 ก.ย.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ว่า ที่ประชุมมีความกังวลต่อการยกระดับการชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ภาคเหนือ อีสาน และภาคใต้ โดยท่าทีของรับบาลไม่ให้ความสำคัญต่อข้อเรียกร้อง และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือรัฐบาลเพิกเฉย แม้กระทั่งมีการปิดเส้นทางรถไฟที่สถานีรถไฟบ้านตูล ถึง 10 วัน แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับนโยบายลงไปเจรจา หรือแม้แต่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เอาแต่สร้างภาพนั่งรถประจำทางสาย 8 หรือนั่งเรือคลองแสนแสบ โดยไม่สนใจปัญหา
ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์จึงได้ตั้งคณะทำงานติดตามตรวจสอบการสนองตอบของรัฐบาลต่อข้อเรียกร้องของชาวสวนยาง โดยมี นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช เป็นประธาน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง และนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง ซึ่งคณะทำงานดังกล่าวจะมีหน้าที่ติดตามตรวจสอบว่ารัฐบาลมีท่าทีสนองตอบต่อข้อเรียกร้องของเกษตรกรมากน้อยเพียงใด โดยในวันที่ 4 ก.ย.จะเริ่มลงพื้นที่ที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี (โคออป) เป็นวันแรก และสรุปรายงานให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคแบบวันต่อวัน เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการทำหน้าที่ของคณะทำงานดังกล่าวจะไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือแทรกแซงการชุมนุมของเกษตรกร แต่เป็นการหาข้อมูลเพื่อนำมาประกอบในการกำหนดท่าทีของพรรคในการแก้ไขปัญหาของประชาชนต่อไป
ด้าน นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า เสียใจต่อมติ ครม.ที่มีการหยิบยกเรื่องการแก้ไขปัญหาราคายาง เพราะไม่ใช่มาตรการที่สนองตอบต่อข้อเรียกร้องของชาวสวนยางอย่างแท้จริง ขณะนี้รัฐบาลเริ่มหางโผล่ เพราะการเยียวยาโดยให้เป็นค่าปุ๋ยไร่ละ 1,260 บาท ไม่ได้อยู่ในข้อเรียกร้อง และการที่รัฐบาลตั้งคณะทำงานเพื่อสำรวจความต้องการของผู้ชุมนุมเป็นการปกครองที่เลวที่สุด และขอเรียกร้องรัฐบาลต่อเรื่องที่เชิญแกนนำมาหารือ ขอให้เปิดใจฟังฐานข้อมูลที่แท้จริง อย่านำมาเป็นเครื่องมือสร้างภาพเหมือนกับเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ส.ค.และหากรัฐบาลยังดึงดันและทำเหมือนเดิมก็จะนำไปสู่การยกระดับการชุมนุมจนไปสู่ปัญหาบานปลาย
ทั้งนี้รายงานข่าวแจ้งว่า เบื้องหลังที่มาของการตั้งคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ ครั้งนี้ เป็นข้อเสนอของนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ หลังจากที่ถูกกลุ่มชาวบ้านบีบให้พรรคต้องมีท่าทีที่ชัดเจนขึ้น โดยจากการให้สัมภาษณ์ของนายนิพิฏฐ์ก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม ส.ส. พรรค ได้กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มม็อบเกษตรกรชาวสวนยาง ที่พื้นที่ภาคใต้ ว่า ขณะนี้มี 4 กลุ่ม คือ 1.ที่สถานีรถไฟบ้านตูล 2.บ้านควนหนองหงส์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช 3.ศาลากลาง จ.ชุมพร และ 4.สหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด หรือโคออป โดยกลุ่มแรกและกลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นก่อน ส่วนที่โคออป เป็นเรื่องของชุมนุมสหกรณ์สวนยางที่มีองค์กรสหกรณ์สวนยางของภาคใต้
ส่วนการเจรจากับภาครัฐที่ทางรัฐบาลออกมาระบุว่าให้เกษตรกรส่งแกนนำไปหารือนั้น นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า จากการที่ได้ฟังทราบว่ามานายเอียด เส้งเอียด แกนนำผู้ชุมนุมปฏิเสธว่าไม่มา และที่ตนพยายามพูดคุยมาได้ความว่าที่ อ.ชะอวด เองหากจะไปหารือก็ต้องมองไปที่สุราษฏร์ฯ ด้วย ที่สุราษฎร์ฯ ก็ต้องมองไปที่ชุมพร เพราะข้อตกลงจะต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพราะถ้า อ.ชะอวด ชนะ สุราษฎร์ฯ - ชุมพร ก็ต้องชนะด้วย และหากถ้ากลุ่มม็อบที่สุราษฎร์ฯ ตกลงที่ราคาระดับนี้ แต่ตัวเลขไม่ตรงกับม็อบที่ อ.ชะอวด ต้องการ ก็ไม่ได้
“ถ้าจะให้มีกำลังต่อรองจริงๆ ผู้ชุมนุมทั้ง 4 กลุ่มจะต้องมีมติเป็นหนึ่งเดียว แต่ที่ผ่านมาทั้งหมดยังไม่มีมติตามที่กล่าวมาเลย คือต่างคนต่างมา เพราะเป็นม็อบชาวบ้านที่เดือดร้อนจริงๆ ไม่มีหัวไม่มีแกนนำ และหากเราจะเข้าไปช่วยเหลือดูแลจัดการก็จะกลายเป็นปัญหาเรื่องเข้าไปแทรกแซง ที่ผ่านมาคนในพื้นที่ก็ถาม ทำไมไม่ไปช่วยกันที่บ้านควนหนองหงส์ เขาบอกกลับมาว่าเขามากันในนามของชมรม ของสหกรณ์ แม้จะพยายามชวนให้ไปรวมตัวกันที่ อ.ชะอวด ที่เดียวจะดีกว่า เขาก็ไม่เอา พวกผมก็เหนื่อย เพราะลงไปพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมมากกว่าคนอื่น ทั้งที่ไม่ใช่พื้นที่” นายนิพิฏฐ์ กล่าว
นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ตนรู้สึกสงสารชาวบ้านเพราะเขามาเพราะเดือดร้อนจริงๆ ทุนสนับสนุนก็ไม่มี และหากไม่มีเอกภาพในการเจรจา จะทำให้มีการแทรกซึมจากภาครัฐได้หรือไม่นั้นถ้าเป็นที่ชะอวดคงยากเพราะมวลชนมีความเข้มแข็ง สามารถควมคุมได้ แต่ก็เป็นไปได้หากเขาอ้างว่าเขาคุยกลุ่มใหญ่อย่างที่สุราษฎร์ฯได้แล้ว กลุ่มเล็กก็ต้องเห็นตาม ซึ่งตรงนี้ก็น่าห่วง
เมื่อถามว่า ที่กล่าวว่าวันที่ 3 ก.ย. กลุ่มม็อบจะดีเดย์ แต่ดูเหมือนเหตุการณ์ไม่มีอะไร นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า วันนี้ยังไม่เท่าไรแต่พรุ่งนี้ (4 ก.ย.) จะหายไปเยอะ สังเกตได้จากการสอบถามการเช่ารถของกลุ่มม็อบว่าเช่าไปกี่วัน ก็ได้คำตอบว่า ไปกลับไม่มีค้าง ส่วนหากการเจรจาไม่สำเร็จหรือล้มเหลว จะถือเป็นความล้มเหลวของ ส.ส.ในพื้นที่หรือไม่ เพราะจะถูกมองว่าไม่เอาใจใส่กับความเดือดร้อนของประชาชน นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ถูกต้อง และหากเที่ยวนี้หากภาคประชาชนชนะ เขาจะประกาศเลยว่า “ที่กูชนะ กูเสียเลือด พวกกูตายน่ะ พรรคมึง พวกมึงไม่เกี่ยว”