“เทพเทือก-สาทิตย์-ประเสริฐ” แถลงโต้ “ประชา” อ้าง 3 ส.ส.ปชป.ไม่เห็นด้วยชาวสวนยางชุมนุม ซัดกล่าวเท็จ บิดเบือนเพื่อหวังผลทางการเมือง “สุเทพ” รับพบกันจริง โดยถูกขอร้องให้ช่วยเจรจาม็อบ แต่ปฏิเสธเพระไม่สนิทแกนนำ ที่สำคัญเกษตรกรเดือดร้อนจริง ด้าน “ประเสริฐ” เผยพูดกันแค่ 2-3 คำ ไม่ให้ใช้กำลังสลายม็อบ “สาทิตย์” ซัดรัฐบาลพยายามทำให้เป็นม็อบการเมือง แนะนายกฯ ไปเจรจากับชาวสวนยางเอง
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ส.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี, นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง และนายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมกันแถลงตอบโต้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้สัมภาษณ์บิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการพูดคุยเรื่องกลุ่มผู้ชุมนุมชาวสวนยาง ที่อ้างว่ามีการพูดคุยกับบุคคลทั้งสาม และมีความเห็นร่วมกันว่าไม่เห็นด้วยต่อการชุมนุม
นายสุเทพชี้แจงว่า ตนได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ประชาที่ห้องกาแฟเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยนายประชาได้ขอให้ตนโทร.หาแกนนำผู้ชุมนุมชาวสวนยางให้ยุติการชุมนุม แต่ได้เรียนไปว่าไม่ได้มีความสนิทสนมใกล้ชิดกับแกนนำ และเป็นการชุมนุมกันเองของประชาชนที่เดือนร้อน ไม่เกี่ยวกับตนและพรรคการเมือง จึงไม่สามารถบอกให้ยุติการชุมนุมได้ และได้แนะนำให้ พล.ต.อ.ประชาลงพื้นที่แก้ปัญหาด้วยตนเอง เพื่อประกาศว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดการยืดเยื้อ และไม่ควรทำให้ปัญหาบานปลายจากการใช้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุม
นายสุเทพกล่าวว่า ประเด็นที่มีการพูดคุยมีเพียงเท่านี้ และเป็นการพูดคุยคนเดียว ไม่ได้คุยร่วมกันตามที่เข้าใจผิด และหลังจากนั้นเมื่อตนได้พูดคุยกับนายประชา ตนก็ได้อภิปรายในที่ประชุมต่อนายกรัฐมนตรี โดยเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงไปแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ไม่ควรมอบให้ผู้อื่นทำแทน เนื่องจากไม่มีความน่าเชื่อถือที่จะทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมมั่นใจได้ว่าจะได้รักการแก้ไขปัญหา ซึ่งนายกรัฐมนตรีควรกำหนดเวลาให้ชัดเจนว่าจะขึ้นราคายางถึงราคา 105-110 บาทได้เมื่อใด ซึ่งเชื่อว่าหากมีการรับปากกับผู้ชุมนุมที่ชัดเจน การชุมนุมก็จะยุติ และนายกรัฐมนตรีควรเข้าพบประธานาธิบดีอินโดนีเซียเพื่อตกลงกันเรื่องการกำหนดราคาตลาดโลก เพราะประเทศไทยและอินโดนีเซียเป็นผู้ส่งออกยางพารามากที่สุดในโลก
นายสุเทพยังยืนยันว่า การชุมนุมของชาวสวนยางไม่ได้มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง หากพวกตนจะเข้าร่วมการชุมนุมก็จะประกาศให้ชัดเจน แต่ที่พวกตนไม่เข้าร่วมกับการชุมนุมของชาวสวนยาง เพราะเป็นการชุมนุมเพื่อเรียกร้องเกี่ยวกับปัญหาความเดือดร้อนโดยไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
ขณะที่นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ชี้แจงว่า ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ประชาตอนกำลังเดินเข้าห้องประชุม โดยยืนคุยสั้นๆ เท่านั้น ในเรื่องความเดือดร้อนของชาวสวนยาง และหากใช้วิธีการสลายการชุมนุม ก็เชื่อว่าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้นใหม่ เพราะไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง ซึ่งประเด็นที่พูดคุยก็มีเพียงเท่านี้
ส่วนนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าวว่า การให้สัมภาษณ์ของ พล.ต.อ.ประชา ที่อ้างว่ามีการพูดคุยกับพวกตนทั้งสามคนและไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมนั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะไม่ได้เป็นการพบพร้อมกันทั้ง 3 คน และไม่ได้พูดคุยในประเด็นเดียวกัน จึงต้องชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด ซึ่งเนื้อหาที่ตนได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.ประชาเป็นการสอบถามว่าจะมีการสลายการชุมนุมชาวสวนยางหรือไม่ โดยนายประชาได้เปิดเผยถึงข้อมูลทางการข่าวว่ามีผู้ชุมนุมเพียง 20% เท่านั้น และตนได้ตอบกลับไปว่าเป็นข้อมูลที่ผิดพลาด ซึ่งประเด็นการพูดคุยมีเพียงเท่านี้ จึงมองว่ามีความจงใจที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อประโยชน์ทางการเมือง สร้างความไม่ชอบธรรมแก่กลุ่มผู้ชุมนุม และเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงว่ามีความพยายามทำเรื่องนี้ให้เป็นม็อบทางการเมือง สร้างกลไกโฆษณาชวนเชื่อให้ร้ายชาวบ้าน และทั้งนี้มองว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาควรให้นายกรัฐมนตรีไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมและดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ตามข้อเสนอแนะของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ
ส่วนที่จะมีการดำเนินการต่อการนักเมืองที่พบปะกับผู้ชุมนุมชาวสวนยาง ได้แก่ นายถาวร เสนเนียม และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังเป็นเพียงข้อมูลที่ปรากฏตามข่าว ต้องรอให้มีการออกหมายจับ และดูว่าเป็นข้อหาใดบ้าง แต่หากมีการดำเนินการตามข่าวจริงก็ยิ่งเป็นการเอามาเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้าม