xs
xsm
sm
md
lg

สภาวุ่นอีก ฝ่ายค้านยันขออภิปรายต่อจากช่วงเช้า-ส.ส.แดงอ้างไม่มีหมายจับ “ถาวร-นิพิฏฐ์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ถกแก้รัฐธรรมนูญที่มา ส.ว.มาตรา 4 เปิดสภาหลังพักประชุมแค่ 20 นาที ผู้นำฝ่ายค้านชี้ในอดีตผู้ที่แปรญัตติขัดกับญัตติสภาก็ยังได้พูด ทำสภายังประท้วงวุ่น หาทางลงไม่ได้ต้องสั่งพักอีก 30 นาที “วรชัย” ประกาศกลางสภา ยันไม่มีการออกหมายจับถาวร-นิพิฏฐ์ ด้าน “วิทยา” ขู่อย่าคิดจับ ไม่เช่นนั้นเมืองนครจะลุกเป็นไฟ

วันนี้ (30 ส.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.00 น. ในการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... เกี่ยวกับที่มาของวุฒิสภา วาระ 2 เป็นวันที่ 6 โดยยังคงพิจารณาอยู่ที่มาตรา 4 นายสมศักดิ์ เกรียติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ได้เปิดการประชุมอีกครั้งหนึ่งหลังการพักการประชุมไป แต่สมาชิกยังคงมีการโต้เถียงกันไปมาในประเด็นการอภิปรายมาตรา 4 เช่นเดิม

โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เสนอที่ประชุมว่า การลงมติในวาระ 2 ส่วนใหญ่ เป็นการอภิปรายรายมาตราไม่เคยมีประเพณีหรือข้อกำหนด ว่ามาตราที่ได้พิจารณาก่อนจะผูกพันมาตราหลัง เหตุผลก็เพราะสมาชิกก็มีแนวคิดในการเสนอกฎหมายตามแบบที่ตัวเองต้องการ จะมาบอกว่าการแปรมติในมาตรา 113 กับ 114 ในการแปรญัตติมาตรา 111, 112 ซึ่งไม่มีใครกำหนดไว้เช่นนั้น ดังนั้นก็จะมีสมาชิกจำนวนหนึ่งที่แปรญัตติแต่สภายังไม่ได้พิจารณา เขาจึงมีสิทธิ์อภิปราย และเมื่อมีการลงมติถามว่าจะขัดกันไหม อยากบอกว่าน้อยมาก และหากขัดกันจริง ข้อบังคับที่ 102 ก็สามามารถแก้ไขปัญหาได้โดยแก้ไขเนื้อความที่มีการขัดแย้งกัน และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประธานคนไหนระบุว่าคนที่เคยแปรญัตติมันขัดกับญัตติสภาไปแล้ว ประธานก็จะชี้ให้พูดทุกครั้ง ซึ่งปฏิบัติกันอย่างนี้มาก่อน

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า เช่นเดียวกับกรณีที่ประธานเคยเจอเหตุการณ์ อย่างเช่นมาตราที่ไปขัดกับเรื่องที่ลงมติไปแล้วก็จะมีการปรึกษากรรมาธิการ ว่าจะเปลี่ยนไปไหม หรือว่าอาจจะเป็นมติของรัฐสภา หรือก็ใช้มติสภาเป็นข้อยกเว้น ไม่ต้องเรียงตามมาตรา เพราะสภาเห็นว่าตอนแรกอาจจะขัดแย้งกันแต่ตอนหลังมีการประสานให้ลงตัวก็สามารถใช้ได้ แต่ว่าท่านประธานจะขอมติ จึงถือว่าไม่ชอบ จึงขอให้ประธานให้ความร่วมมือกับผู้ที่เสนอคำแปรญัตติออกมาพูดแต่หากเห็นว่าฟุ่มเฟือยก็ขอกัน

ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวเสริมว่า เราควรให้ฝ่ายค้านได้อภิปราย โดยการบริหารความขัดแย้ง ถ้าแบบนี้จะไม่มีวินัย ขอเรียกร้องให้ผู้นำฝ่ายค้านใช้เวทีนี้ให้ ทำให้นายสมศักดิ์ตัดสินใจที่จะดำเนินการตามที่นายอภิสิทธิ์เสนอแนะ

จากนั้นนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้หยิบเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนครศรีธรรมราช ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ฐานเป็นผู้สนับสนุนให้มีการชุมนุมของชาวสวนยางพาราใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งถือเป็นการลิดรอนสิทธิการทำหน้าที่ผู้แทนประชาชนอย่างมาก ตนจึงขอให้ประธานสภาประสานไปยังหัวหน้ารัฐบาล เพื่อดำเนินการไตร่ตรองถึงเรื่องนี้ด้วย แต่นายสมศักดิ์ยืนยันว่าตนเองไม่มีอำนาจในการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ แต่หากมีการออกหมายจับดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องทำการประสานมายังรัฐสภาอยู่แล้ว

ต่อมาที่ประชุมจึงเริ่มต้นที่จะอภิปรายมาตรา 4 ต่อไป โดยนายวิทยายังยืนยันที่จะขออภิปรายต่อจากช่วงเช้าที่ผ่านมา ที่ประธานสภาฯ สั่งให้หยุดอภิปรายไป แต่นายสมศักดิ์ยืนยันว่า ขอให้เดินไปข้างหน้าจะดีกว่า ซึ่งทางฝ่ายค้านก็มีการประท้วงประธานอีกครั้งหนึ่ง จนนายสมศักดิ์ต้องสั่งพักการประชุมอีก 30 นาทีเพื่อให้วิปทั้ง 3 ฝ่ายไปหารือหาทางออก

ต่อมาเวลา 14.40 น. นายสมศักดิ์ได้เปิดการประชุมอีกครั้ง โดยเปิดเผยว่า จากการหารือของวิปได้ข้อตกลงว่าจะไม่มีการลงมติ แต่จะเปิดโอกาสให้สมาชิกได้อภิปรายตามสิทธิ แต่ขอให้เคารพคำวินิจฉัยของประธานด้วย นายสมศักดิ์จึงให้นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายต่อว่า ตนไม่เข้าใจว่าเราจะดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปเพื่ออะไรและเพื่อใคร ในเมื่อไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องมาทำแบบเร่งด่วนเช่นนี้

จากนั้นนายวรชัย เหมะ ได้กล่าวยืนยันกล่าวที่ประชุมว่า ตนได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นครศรีธรรมราช ว่าไม่ได้มีการออกหมายจับนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา และนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แต่อย่างใด ซึ่งทางนายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ระบุต่อว่า ถ้ายังไม่มีหมายจับดังกล่าวจริงตนก็ดีใจ และขอเตือนให้รัฐบาลอย่ากระทำเช่นนั้นเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นแล้วตนเชื่อว่าเมืองนครจะลุกเป็นไฟ

ต่อมานายนิคม ไวยรัชพานิช ได้ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งนายนิคมได้พยายามหยุดการอภิปรายของนางศิริวรรณหลายครั้ง เนื่องจากเห็นว่าประเด็นที่นางศิริวรรณอภิปรายนั้นเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว จนทำให้ ส.ส.ฝ่ายค้านได้ประท้วงการทำหน้าที่ของนายนิคม โดยนายนิคมยืนยันว่าที่ตนวินิจฉัยไม่ให้มีการอภิปรายในมาตรา 4 นั้น เนื่องจากว่า ส.ว.สรรหานั้นถูกตัดออกไปในมาตรา 3 เรียบร้อยแล้ว ทำให้เราไม่มีเหตุจำเป็นจะต้องมาอภิปรายในเรื่องนี้ซ้ำอีก ทำให้นายอรรถวิทย์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวโต้แย้งว่า ผู้นำฝ่ายค้านได้เสนอแนะทางออกไปเรียบร้อยแล้ว และถือเป็นข้อตกลงของสมาชิก ตนจึงขอให้เราเดินหน้าไปตามวิถีทางของมัน อย่าพยายามเร่งเกมจนเกินไป เพราะประธานสภาฯไม่สามารถบังคับใครได้

ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวเสริมว่า ตนไม่ทราบว่านายนิคมได้มีการพูดคุยกับใครหรือไม่ แต่ทางวิปได้หารือกันเพื่อลดจำนวนผู้อภิปรายแล้ว ตนคิดว่านายนิคมคงจะไม่เคยประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพราะฉะนั้นตนจึงขอแนะให้ประธานฯลองนึกถึงการพิจารณางบประมาณปี 57 ที่ผ่านมา มีการอภิปรายถึงยอดรวมงบประมาณทั้งหมด และถ้าจะใช้ตรรกะนี้งบประมาณของกระทรวงต่างๆ ก็อภิปรายปรับลดไม่ได้เลย ซึ่งเราก็ขอสิทธิของสมาชิกที่จะใช้อยู่ในขอบเขตด้วย ทำให้นายนิคมต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปรายต่อไป













กำลังโหลดความคิดเห็น