xs
xsm
sm
md
lg

กสิกรฯ มองเงินยังไหลเข้าเอเชีย ออก K-ASIA เน้นหุ้นเล็ก-กลาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.กสิกรไทยมองตลาดเอเชียยังเติบโตที่ดี ออกกองทุน “เค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน (K-ASIA)” เน้นหุ้นขนาดเล็ก-กลางที่เติบโตสูงทั่วเอเชีย มองเม็ดเงินยังไหลเข้าเอเชียจากปัจจัยพื้นฐานที่ดี การเติบโตของบริษัทจดทะเบียนที่สูง

    นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจเอเชียยังคงขยายตัวได้ดีอยู่ แม้ว่าจะชะลอตัวลงจากปีที่ผ่านมา ทาง IMF คาดการณ์เศรษฐกิจเอเชียในปีนี้ว่าจะโตได้กว่า 6.4% ซึ่งก็ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและระดับราคาหุ้น โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือยุโรปที่มีทิศทางที่ดีขึ้นเป็นผลดีส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจเอเชียในเรื่องการส่งออก ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ใน 3 ของปริมาณการส่งออกทั้งหมดของประเทศในเอเชีย
    
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยจึงเปิดขายกองทุนเปิดเค เอเชียน สมอลเลอร์ หุ้นทุน  (K-ASIA) มูลค่ากองทุน 2,000 ล้านบาท โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนในหุ้นเอเชียผ่านกองทุนหลัก Templeton Asian Smaller Companies  โดยกองทุน K-ASIA มุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนระยะยาวในหุ้นบริษัทขนาดกลาง และขนาดเล็กที่มีศักยภาพการเติบโตสูงในภูมิภาคเอเชีย ที่มีมูลค่าตลาดประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 ซึ่งเป็นหุ้นของบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก แต่ขนาด market cap เฉลี่ยของหุ้นส่วนใหญ่ที่กองทุนลงทุน จะอยู่ที่ประมาณ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4-5  หมื่นล้านบาท ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับบริษัทในเมืองไทย  เปิดขายกองทุนระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-6 พฤศจิกายน 2556
    
“กองทุนจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค, สินค้าฟุ่มเฟือย, กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ, การเงิน, อุตสาหกรรม เป็นหลัก โดยหุ้นของบริษัทในแต่ละตัวจะมีการเติบโตของกำไรเฉลี่ย 20% ในช่วง 3-5 ปี และระดับราคาหุ้นปัจจุบันของดัชนี MSCI AC Asia Small Cap Index ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยมี Forward P/E อยู่ที่ประมาณ 10 เท่า”  
    
นายนาวิน ยังกล่าวว่า แม้ว่าเงินจะไหลออกจากตลาดเอเชียกลับไปตลาดประเทศพัฒนาแล้วในช่วงที่ผ่านมา แต่เมื่อความกังวลในเรื่อง QE ของสหรัฐฯ ที่ลดลง การปรับลด QE น่าจะเลื่อนออกไปอย่างน้อยในช่วงปลายไตรมาส 1 หรือต้นไตรมาส 2 ของปีหน้า ซึ่งเชื่อได้ว่า Fed น่าจะยังไม่ตัดสินใจปรับลดเม็ดเงิน QE ในช่วงที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงมองว่าการลงทุนจะเริ่มกลับมามองที่ปัจจัยพื้นฐานมากขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจเอเชียก็ยังมีการเติบโตที่สูงเงินลงทุนจึงน่าไหลกลับมาสู่ตลาดเอเชียและไทยอีก แต่หากมีการเริ่มปรับลดเม็ดเงินในมาตรการ QE จริง เชื่อว่าน่าจะส่งผลลบต่อตลาดหุ้นเอเชียในระยะสั้น
    
“การลงทุนในช่วงปีตลาดหุ้นสหรัฐฯ น่าจะมีการเติบโตที่ลดลง ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปน่าจะมีเงินไหลเข้าไปมากขึ้นจากเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น รวมทั้งตลาดเอเชียที่เชื่อว่าเงินลงทุนในน่าไหลกลับเข้ามา ส่วนตลาดหุ้นมองว่านักลงทุนต่างชาติยังมีทางเลือกจึงอาจจะยังไม่กลับเข้ามาที่ตลาดไทยในช่วงนี้”


กำลังโหลดความคิดเห็น