xs
xsm
sm
md
lg

SCBAM รุกกองทุนส่วนบุคคล ตั้งเป้าแตะแสนล้านเป็นอันดับ 1

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 บลจ.ไทยพาณิชย์ตั้งเป้าดันธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลเป็นที่ 1 แตะ แสนล้านในปีหน้า วางแผนจับกลุ่มลูกค้ามหาวิทยาลัย หน่วยงานภาครัฐ รวมถึงประกัน พร้อมกลยุทธ์กระจายการลงทุน มองปีหน้าตลาดแกว่งตัว เงินไหลเข้าตลาดพัฒนาแล้ว

นายพจน์ หะริณสุต รองกรรมการผู้อำนวยการกลุ่มลูกค้าบุคคลและสถาบัน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวถึงธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาธุรกิจเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 50% โดยเราตั้งเป้าเติบโตในสิ้นปีนี้ที่ 60,000 ล้านบาท จากระดับปัจจุบันอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท โดยในปีนี้ได้บริษัททั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาหลายราย เช่น สำนักงานประกันสังคม ขนาด 9,000 ล้านบาท สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ประมาณ 6,000-7,000 พันล้านบาท รวมกันกว่า 16,000 ล้านบาท และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ขนาด 3,000 ล้านบาท รวมทั้งมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกจำนวน 10 แห่ง ดังนั้นในปีหน้าก็ตั้งเป้าที่จะเติบโตระดับ 90,000-100,000 ล้านบาทหรือเป็นที่ 1 ในอุตสาหกรรมกองทุนส่วนบุคคล โดยมีแผนที่จะรุกมีส่วนธุรกิจประกัน มหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐ
    
    ทั้งนี้ บริษัทมีแผนกลยุทธ์ คือการจัดสรรสินทรัพย์ที่น่าสนใจให้แก่ลูกค้า โดยพอร์ตการลงทุนส่วนใหญ่ของลูกค้าจะเลือกลงทุนในตราสารหนี้ประมาณ 80% สินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นไม่เกิน 15% และสินทรัพย์ทางเลือก 5%
        
“ในปีหน้าตั้งเป้าการเติบโตในฐานลูกค้าบริษัทประกันจาก 15% ขึ้นเป็น 30% มหาวิทยาลัยจาก 15% ขึ้นเป็น 20% หน่วยงานภาครัฐ 30% เป็น 35% ส่วนที่อาจจะลดลงคือ กลุ่มบริษัทจดทะเบียน จาก 25% เหลือ 20% และกลุ่มๆ อื่นรวมกันอยู่ที่ 15%”
    
    นายพจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันดอกเบี้ยรัฐบาลไทยค่อนข้างต่ำจึงเริ่มมองหาตราสารหนี้ต่างประเทศระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูงเป็นทางเลือก เช่น ตราสารหนี้ของประเทศตุรกีที่ให้ผลตอบแทนระดับ 3.5-4.5%และยังมองว่าในปีหน้าดอกเบี้ยก็ยังอยู่ในระดับต่ำต่อไป ขณะที่บริษัทจดทะเบียนจะโตที่ประมาณ 10-15% ในปีหน้า อัตราดอกเบี้ยน่าจะอยู่ที่ 2.5% เพราะเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ ส่วนปัจจัยต่างประเทศคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะมีการพูดถึงการขึ้นดอกเบี้ยได้ในปีหน้า โดยเรื่องเพดานหนี้ไม่น่าจะมีปัญหา เศรษฐกิจไม่น่าจะกลับไปถดถอยอีก
 
       “ปีหน้าเงินจะไหลออกจากตลาดเอเชียไปตลาดประเทศพัฒนาแล้วอย่าง สหรัฐฯ ยุโรป ญี่ปุ่น  แต่ก็จะมีทั้งข่าวดีข่าวร้ายมาทำให้ตลาดแกว่งตัวตลอด ตลาดหุ้นไทยจะเคลื่อนไหวแบบด้านข้าง (Side way) และอาจแกว่งขึ้นไปถึงระดับ 1,700 จุดได้ ดังนั้นจึงไม่ควรลงทุนในหุ้นอย่างเดียว ควรกระจายลงทุนในตราสารหนี้ หุ้น รวมถึงอสังหาริมทรัพย์”


กำลังโหลดความคิดเห็น