กกจ.ดันนายจ้างพาแรงงานต่างด้าวเข้าประกันสังคม หากขอใบอนุญาตทำงานใหม่ต้องแจ้งให้ลูกจ้างเข้าประกันสังคม ประสาน สปส.ร่วมตั้งโต๊ะออกเอกสาร หนุนใช้ใบเสร็จรับเงินขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวมายื่นเป็นหลักฐานแจ้งเข้าสู่ประกันสังคม
วันนี้ (24 ต.ค.) นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เสนอให้ กกจ.ปรับเกณฑ์การรับแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยให้นายจ้างสามารถใช้เลขใบเสร็จรับเงินการขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวแทนใบอนุญาตการทำงานจริงมาใช้ในการยื่นเป็นหลักฐานว่า ปัจจุบันแรงงานต่างด้าวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกแรงงานต่างด้าวที่เข้าทำงานในไทยโดยผิดกฎหมายและอยู่ระหว่างรอพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้ อย่างไรก็ตาม แรงงานต่างด้าวในบางอาชีพที่กฎหมายประกันสังคมไม่อนุญาตให้เข้าสู่ระบบประกันสังคมคือ อาชีพด้านเกษตร ประมง และแม่บ้าน โดยแรงงานต่างด้าวทั้งสองกลุ่มนี้จะต้องใช้การทำประกันสุขภาพแบบรายปีแทน
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มที่สองเป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ได้อยู่ในอาชีพที่ถูกห้ามไม่ให้เข้าระบบประกันสังคม ที่ผ่านมา กกจ.พยายามผลักดันให้แรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบประกันสังคม แต่ติดปัญหาหลายเรื่อง เช่น นายจ้างไม่มาแจ้ง สปส.ต้องการเลขใบอนุญาตทำงาน แต่ กกจ.ไม่สามารถออกใบอนุญาตทำงานให้แรงงานต่างด้าวไม่ทัน เนื่องจากแรงงานต่างด้าวมีจำนวนมาก ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของ สปส.ที่จะใช้เลขใบเสร็จรับเงินการขอใบอนุญาตทำงานแทน เพื่อให้การดำเนินนำแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยโดยถูกกฎหมายเข้าสู่ระบบประกันสังคมทำได้รวดเร็วขึ้น ซึ่ง สปส.ก็ต้องปรับเกณฑ์เพื่อรองรับในเรื่องนี้เช่นกัน
“ขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวกว่า 2 แสนคน ที่จะครบกำหนดผ่อนผันให้ทำงานอยู่ในไทยชั่วคราว 4 ปีในเดือน พ.ย.นี้ จะต้องขอเอกสารรับรองสถานะและใบอนุญาตทำงานใหม่ ดังนั้น กกจ.จะประสานไปยัง สปส.ให้มาตั้งโต๊ะร่วมกันตามศูนย์ต่างๆ ซึ่งออกเอกสารรับรองสถานะแก่แรงงานต่างด้าวเพื่อดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานไปพร้อมกับการให้นายจ้างแจ้งนำแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบประกันสังคม ต่อไป กกจ.จะใช้วิธีนี้กับแรงงานต่างด้าวที่มาขอใบอนุญาตทำงานใหม่ ซึ่งเป็นการผลักดันทางอ้อมให้นายจ้างต้องนำแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบประกันสังคม” นายประวิทย์ กล่าว
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนักวิชาการวิจัยพบว่า แรงงานต่างด้าวเข้าสู่ประกันสังคมยาก เพราะเปลี่ยนนายจ้างไม่ได้ หากเป็นกรณีนายจ้างนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาแล้วให้ทำงานผิดประเภท เช่น รับมาทำงานด้านเกษตรแต่กลับให้ขายของเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ลูกจ้างต่างด้าวมีสิทธิยื่นขอเปลี่ยนนายจ้างได้และนายจ้างรายใหม่มาแจ้งนำเข้าประกันสังคมได้
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ สปส.ล่าสุดมีแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในระบบกว่า 1 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เข้าสู่ระบบประกันสังคมแล้วกว่า 3 แสนคน
วันนี้ (24 ต.ค.) นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงกรณีสำนักงานประกันสังคม (สปส.) เสนอให้ กกจ.ปรับเกณฑ์การรับแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบประกันสังคม โดยให้นายจ้างสามารถใช้เลขใบเสร็จรับเงินการขอใบอนุญาตทำงานของแรงงานต่างด้าวแทนใบอนุญาตการทำงานจริงมาใช้ในการยื่นเป็นหลักฐานว่า ปัจจุบันแรงงานต่างด้าวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกแรงงานต่างด้าวที่เข้าทำงานในไทยโดยผิดกฎหมายและอยู่ระหว่างรอพิสูจน์สัญชาติ ซึ่งแรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้จะไม่สามารถเข้าสู่ระบบประกันสังคมได้ อย่างไรก็ตาม แรงงานต่างด้าวในบางอาชีพที่กฎหมายประกันสังคมไม่อนุญาตให้เข้าสู่ระบบประกันสังคมคือ อาชีพด้านเกษตร ประมง และแม่บ้าน โดยแรงงานต่างด้าวทั้งสองกลุ่มนี้จะต้องใช้การทำประกันสุขภาพแบบรายปีแทน
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ส่วนกลุ่มที่สองเป็นแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยโดยถูกต้องตามกฎหมาย และไม่ได้อยู่ในอาชีพที่ถูกห้ามไม่ให้เข้าระบบประกันสังคม ที่ผ่านมา กกจ.พยายามผลักดันให้แรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบประกันสังคม แต่ติดปัญหาหลายเรื่อง เช่น นายจ้างไม่มาแจ้ง สปส.ต้องการเลขใบอนุญาตทำงาน แต่ กกจ.ไม่สามารถออกใบอนุญาตทำงานให้แรงงานต่างด้าวไม่ทัน เนื่องจากแรงงานต่างด้าวมีจำนวนมาก ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับข้อเสนอของ สปส.ที่จะใช้เลขใบเสร็จรับเงินการขอใบอนุญาตทำงานแทน เพื่อให้การดำเนินนำแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยโดยถูกกฎหมายเข้าสู่ระบบประกันสังคมทำได้รวดเร็วขึ้น ซึ่ง สปส.ก็ต้องปรับเกณฑ์เพื่อรองรับในเรื่องนี้เช่นกัน
“ขณะนี้มีแรงงานต่างด้าวกว่า 2 แสนคน ที่จะครบกำหนดผ่อนผันให้ทำงานอยู่ในไทยชั่วคราว 4 ปีในเดือน พ.ย.นี้ จะต้องขอเอกสารรับรองสถานะและใบอนุญาตทำงานใหม่ ดังนั้น กกจ.จะประสานไปยัง สปส.ให้มาตั้งโต๊ะร่วมกันตามศูนย์ต่างๆ ซึ่งออกเอกสารรับรองสถานะแก่แรงงานต่างด้าวเพื่อดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานไปพร้อมกับการให้นายจ้างแจ้งนำแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบประกันสังคม ต่อไป กกจ.จะใช้วิธีนี้กับแรงงานต่างด้าวที่มาขอใบอนุญาตทำงานใหม่ ซึ่งเป็นการผลักดันทางอ้อมให้นายจ้างต้องนำแรงงานต่างด้าวเข้าสู่ระบบประกันสังคม” นายประวิทย์ กล่าว
อธิบดี กกจ.กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีนักวิชาการวิจัยพบว่า แรงงานต่างด้าวเข้าสู่ประกันสังคมยาก เพราะเปลี่ยนนายจ้างไม่ได้ หากเป็นกรณีนายจ้างนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาแล้วให้ทำงานผิดประเภท เช่น รับมาทำงานด้านเกษตรแต่กลับให้ขายของเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ลูกจ้างต่างด้าวมีสิทธิยื่นขอเปลี่ยนนายจ้างได้และนายจ้างรายใหม่มาแจ้งนำเข้าประกันสังคมได้
ทั้งนี้ จากข้อมูลของ สปส.ล่าสุดมีแรงงานต่างด้าวที่อยู่ในระบบกว่า 1 ล้านคน โดยในจำนวนนี้เข้าสู่ระบบประกันสังคมแล้วกว่า 3 แสนคน
