บลจ.กรุงไทยเปิดขาย 3 กองทุนปั๊มยอดเอยูเอ็ม ส่งกองปันผลหวังตอบโจทย์นักลงทุนต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอ เปิดขายแล้ววันนี้ถึง 30 ตุลาคม เน้นลงทุนบริษัทประวัติดีจ่ายปันผลสม่ำเสมอ มั่นใจเหมาะลงทุนช่วงตลาดผันผวน ขณะเดียวกันเปิดขาย 2 กองตราสารหนี้ทั้งไทย-เทศ ชูผลตอบแทนสูงสุดถึง 3% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลให้ความผันผวนในตลาดเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจัยภายนอกมาจากความไม่แน่นอนของช่วงเวลาการปรับลด QE สถานการณ์การหาทางออกในการแก้ไขปัญหาเพดานหนี้และผลกระทบจากการปิดหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยภายในมาจากความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งส่งผลต่อตลาดหุ้นเป็นระยะๆ
ทั้งนี้ การลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4-5 ต่อปีนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับภาวะที่ตลาดมีความผันผวนเช่นนี้
โดยล่าสุดลบริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนท์ (KT-HiDiv) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 21-30 ตุลาคม 2556 ซึ่งจะเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีผลการดำเนินงานที่ดี มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี สม่ำเสมอ และ/หรือ มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต โดยมีอัตราส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
“กองทุนนี้มีรูปแบบที่เหมาะสมและสอดคล้องกับเป้าหมายในการลงทุนของนักลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว ที่ต้องการผลตอบแทนและรายได้ที่สม่ำเสมอจากเงินปันผล ควบคู่กับโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาหุ้นอีกด้วย”
นายสมชัยกล่าวอีกว่า นอกจากกองทุนหุ้นปันผลแล้วบริษัทยังจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ทั้งไทยและต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 95 (KTSUPB95) จะเสนอขายวันที่ 21-29 ตุลาคม 2556 อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศ และคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี
กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 2 (KTFIX3M2) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Roll Over เน้นลงทุนตราสารในประเทศประเภทพันธบัตรภาครัฐ 57% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารธนชาต ธนาคารทิสโก้ และธนาคารออมสิน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.45% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากปัจจัยทั้งภายในและภายนอกประเทศ ส่งผลให้ความผันผวนในตลาดเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจัยภายนอกมาจากความไม่แน่นอนของช่วงเวลาการปรับลด QE สถานการณ์การหาทางออกในการแก้ไขปัญหาเพดานหนี้และผลกระทบจากการปิดหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยภายในมาจากความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งส่งผลต่อตลาดหุ้นเป็นระยะๆ
ทั้งนี้ การลงทุนในบริษัทจดทะเบียนที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและมีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอเฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 4-5 ต่อปีนับเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับภาวะที่ตลาดมีความผันผวนเช่นนี้
โดยล่าสุดลบริษัทได้เปิดขายกองทุนเปิดกรุงไทย หุ้นไฮดิวิเดนท์ (KT-HiDiv) มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ในวันที่ 21-30 ตุลาคม 2556 ซึ่งจะเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีผลการดำเนินงานที่ดี มีประวัติการจ่ายเงินปันผลที่ดี สม่ำเสมอ และ/หรือ มีศักยภาพในการจ่ายเงินปันผลในอนาคต โดยมีอัตราส่วนการลงทุนในหลักทรัพย์เหล่านี้เฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 65 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน
“กองทุนนี้มีรูปแบบที่เหมาะสมและสอดคล้องกับเป้าหมายในการลงทุนของนักลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว ที่ต้องการผลตอบแทนและรายได้ที่สม่ำเสมอจากเงินปันผล ควบคู่กับโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาหุ้นอีกด้วย”
นายสมชัยกล่าวอีกว่า นอกจากกองทุนหุ้นปันผลแล้วบริษัทยังจะเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ทั้งไทยและต่างประเทศ ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 95 (KTSUPB95) จะเสนอขายวันที่ 21-29 ตุลาคม 2556 อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศ และคาดว่าผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี
กองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือนคุ้มครองเงินต้น 2 (KTFIX3M2) ซึ่งเป็นกองทุนประเภท Roll Over เน้นลงทุนตราสารในประเทศประเภทพันธบัตรภาครัฐ 57% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารธนชาต ธนาคารทิสโก้ และธนาคารออมสิน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.45% ต่อปี
