xs
xsm
sm
md
lg

CIMB แนะแบ่งขายทำกำไร เชื่อหุ้นไทยยังทำยิลด์ 10-15%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จุมพล สายมาลา
บลจ.ซีไอเอ็มบีชี้หุ้นไทยผันผวนต่อ แต่ผลตอบแทนยังอยู่ในระดับ 10-15% แนะนักลงทุนทยอยขายแบ่งกำไรเข้ากระเป๋า ชูกองทุนตระกูล iFUND Series พร้อมใช้กลยุทธ์รับรายได้สม่ำเสมอแบบอัตโนมัติช่วยลดความผันผวน

นายจุมพล สายมาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เปิดเผยว่า แนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นช่วงนี้จะมีความผันผวนตามกระแสข่าวการยกเลิกมาตรการคิวอีแบบรายวัน ซึ่งแม้ว่าประธาน FED จะแสดงท่าทีว่ามาตรการคิวอีจะยังคงมีต่อไปในปีนี้ อย่างไรก็ตาม การลดและยกเลิกจะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคตไม่ช้าก็เร็ว

อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้ยังคงดีอยู่ และน่าจะให้ผลตอบแทน 10-15% แต่ตลาดจะไม่ใช่ปาร์ตี้ขาขึ้นเหมือนปีที่ผ่านมา ซึ่งภาวะตลาดลักษณะนี้บริษัทแนะนำให้นักลงทุนทยอยแบ่งรับรายได้จากผลตอบแทนเข้ากระเป๋าไว้ก่อน เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในอนาคตของตลาด

ทั้งนี้ แนวทางการลงทุนดังกล่าว นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนผ่านหน่วยลงทุนแบบ Multi Share Class ชนิด R ที่มีคุณสมบัติหลักคือการแบ่งจ่ายรายได้คืนสม่ำเสมออัตโนมัติทุกๆ ไตรมาสผ่านกลุ่มกองทุน iFUND Series ของบริษัททั้ง 5 กองทุน คือ 1. กองทุนอสังหาอสังหาริมทร้พย์และ REIT (iPROP) 2. กองตราสารหนี้ตลาดเงิน (iDAILY)

3. กองทุนหุ้นเติบโตดีและปันผลต่อเนื่อง (iDIV) 4. กองทุนทองคำ (iGOLD) 5. ตราสารหนี้เอกชนระยะกลางถึงยาว (iFIXED)

นายจุมพล กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกองทุนกลุ่ม IFUND Series เป็นกองทุนกลุ่มที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน โดยทั้ง 5 กองทุนมีขนาดรวมกันประมาณ 51% ของมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ของบริษัท

อนึ่ง หน่วยลงทุนแบบ Multi Share Class จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน โดยคุณสมบัติของ Multi Share Class เหมาะสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการแบ่งรายได้แบบสม่ำเสมอ

สำหรับหน่วยลงทุนชนิดที่มีการจ่ายปันผลคือ Class R และ D สามารถทำได้ต่อเนื่องตามที่ตั้งเป้าหมายไว้คือทุกๆ ไตรมาส (ยกเว้นกองทุนที่ลงทุนในทองคำ) โดยกองทุน iPROP และ iDIV สามารถจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาสแรกที่จัดตั้งกองทุน กล่าวคือ 5 ครั้ง และ 4 ครั้งตามลำดับ โดยผลตอบแทนเงินปันผลประมาณการอยู่ที่ 2.5% ต่อปีสำหรับกองทุนตราสารหนี้ตลาดเงิน (iDAILY) 4% ต่อปีสำหรับกองทุนตราสารหนี้เอกชนระยะกลางถึงยาว (iFIXED) ) 8% ต่อปีสำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (iPROP) และ 12% ต่อปีสำหรับกองทุนหุ้นเติบโตและปันผลดี (iDIV)


กำลังโหลดความคิดเห็น