บลจ.เกียรตินาคินเผยไตรมาส 3 เตรียมคลอดกองทุนหุ้นรองรับดีมานด์ หลัง 8 เดือนกองหุ้นให้ผลตอบแทนแจ่ม ด้านกองทุนอสังหาริมทรัพย์คาดออกปลายปี
นายยุทธพล ลาภละมูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เกียรตินาคิน จำกัด เปิดเผยว่า ปลายไตรมาส 3 หรือช่วงต้นไตรมาส 4 บริษัทมีแผนที่จะออกกองทุนหุ้นเพิ่มขึ้นอีก 1 กองทุน โดยมีขนาดกองทุนที่ไม่ใหญ่มากนัก โดยกองทุนหุ้นถือเป็นสิ่งที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญมากกว่า และประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการ ซึ่งในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมาบริษัทสามารถบริหารกองทุนหุ้นเข้าเป้าหมายตามที่วางไว้ โดยมีผลตอบแทนโดยเฉลี่ยดีกว่าผลตอบแทนตลาดถึงกว่า 60%
ขณะเดียวกัน ในส่วนของกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIT บริษัทยังให้ความสนใจ ซึ่งคาดว่าช่วงปลายปีน่าจะได้เห็นกัน ส่วนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือโพรวิเดนต์ฟันด์ บริษัทมองว่าในอนาคตระยะยาวอาจจะให้ความสนใจ เพราะการแข่งขันในตลาดกองทุนสำรองเลี้ยงชีพค่อนข้างรุนแรง ซึ่งยังไม่เหมาะสมที่จะเข้าแข่งขันในขณะนี้ เนื่องจากยังมีความพร้อมไม่มากพอ ดังนั้น การนำเสนอกองทุนใหม่ออกสู่ตลาดยังคงเน้นไปที่ตลาดเฉพาะกลุ่มมากกว่าตลาดแมสที่มีรายใหญ่เข้าไปแข่งขันทำตลาดอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ในการบริหารจัดการกองทุน บริษัทจะใช้ทีมงานจาก บล.ภัทรเข้ามาเป็นผู้ดูแล โดยใช้กลยุทธ์การบริหารจัดการกองทุนส่วนบุคคลที่มีความชำนาญมาปรับใช้ในการบริหารกองทุนโดยรวมของบริษัท ซึ่งในขณะนี้ได้เริ่มกระบวนการผนึกกำลังด้านบุคลากร รวมถึงเครื่องมือและระบบต่างๆ จากภัทรได้เริ่มดำเนินการเพื่อผนึกรวมกับบุคลากรและระบบการทำงานของบริษัทแล้ว
“บลจ.เกียรตินาคินตั้งเป้าที่จะนำเสนอกองทุนที่มีคุณภาพ ที่การตัดสินใจลงทุนอิงข้อมูลปัจจัยพื้นฐานทั้งด้านมหภาคและจุลภาค มีการทำการวิเคราะห์ภาคสนามอย่างใกล้ชิดโดยทีมฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนของเราเอง ภายใต้การควบคุมทั้งด้านการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด โดยเป้าหมายที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ส่วนแบ่งการตลาด หรือการได้เป็นบริษัทจัดการที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ แต่จะทุ่มเทความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการลงทุนให้บรรลุวัตถุประสงค์ความต้องการของลูกค้า และสร้างผลตอบแทนให้แก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสม และเร็วๆ นี้ บลจ.เกียรตินาคินจะเปลี่ยนชื่อเป็น บลจ.ภัทร เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการจัดโครงสร้างธุรกิจที่จะใช้ภัทรเป็นแกนนำในการทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร หรือเอยูเอ็ม อยู่ที่ประมาณ 23,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับเอยูเอ็มในกองทุนรวมส่วนบุคคลของ บล.ภัทรที่ปัจจุบันอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท จะทำให้เอยูเอ็มรวมขยับขึ้นเป็น 29,000 ล้านบาท