บลจ.กสิกรไทย เผยแม้ตลาดหุ้นผันผวนมองแค่ระยะสั้น แนะนักลงทุนทยอยซื้อ แย้มศรษฐกิจไทยแกร่งหลังรัฐกระตุ้นหุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อสร้าง สื่อสาร ค้าปลีก และโครงสร้างพื้นฐานรับอานิสงส์ ล่าสุดเตรียมจ่ายปันผล กองทุนเปิด “รวงข้าวทวีผล 2” ในอัตรา 0.56 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่า 42 ล้านบาท เฮรับพร้อมกัน 12 เม.ย.นี้
นายจงรัก รัตนเพียร ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยถึงมุมมองต่อทิศทางตลาดหุ้นไทย ว่าเศรษฐกิจไทยที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งรวมถึงการบริโภคภายในประเทศจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ตลาดหุ้นเติบโตต่อไปได้อีก จึงยังคงเน้นน้ำหนักการลงทุนในหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการบริโภคในประเทศเป็นหลัก เช่น หุ้นกลุ่มธนาคาร ก่อสร้าง สื่อสาร ค้าปลีก เพราะมองว่ายังมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนอยู่อย่างต่อเนื่อง ทั้งจากนโยบายภาครัฐฯ และโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ สำหรับความผันผวนในตลาดหุ้นนั้น มองว่าตลาดหุ้นไทยอาจเผชิญความผันผวนในระยะสั้นจากทั้งแรงเทขายทำกำไรและข่าวที่อาจเข้ามาสร้างความกังวลต่อนักลงทุนเป็นระยะ แต่เชื่อว่าปัจจัยบวกที่มาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและภาพรวมของเศรษฐกิจทั่วโลกทั้งสหรัฐฯ และจีนที่ยังเติบโตดีขึ้น ขณะที่ทางยุโรปแม้ยังคงต้องปรับตัวแต่ผลกระทบยังคงอยู่ในวงจำกัด เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะเติบโตขึ้นไปในที่สุด
“สำหรับผู้ลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวน หากผู้ลงทุนรับความเสี่ยงได้ไม่มากนักอาจจะพิจารณาขายทำกำไรออกไปได้บ้างบางส่วนเมื่อมีกำไร หรือเพื่อลดความผันผวน แต่หากสามารถรับความผันผวนได้ ยังแนะนำให้คงเงินลงทุนต่อไปหรือหาจังหวะเข้าซื้อเพิ่มเติมเมื่อดัชนีปรับตัวลงมา อย่างไรก็ตาม หากผู้ลงทุนมุ่งเน้นการลงทุนระยะยาว แนะนำว่าสามารถถือหน่วยลงทุนได้ต่อ เนื่องจากบริษัทฯ ยังมองตลาดในภาพบวกในระยะยาว ซึ่งผู้ลงทุนอาจจะทยอยเข้าซื้อเพิ่มเติมเมื่อตลาดปรับตัวลดลงในช่วงสั้น เนื่องจากเมื่อพิจารณาเทียบกับทางเลือกการลงทุนอื่น การลงทุนในหุ้นยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและมีแนวโน้มที่จะให้โอกาสรับผลตอบแทนที่ดีอยู่”
ล่าสุดบริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล 2 (RKFHI2) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2555 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2556 ในอัตรา 0.56 บาทต่อหน่วย ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียนของวันที่ 1 เมษายน 2556 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 12 เมษายน 2556 คิดเป็นมูลค่าการจ่ายปันผลกว่า 42 ล้านบาท
“ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล 2 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ในครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 9.36% ขณะที่ dividend yield ของตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ เดือนมีนาคม 2556 อยู่ที่ 2.69% เท่านั้น สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุนดังกล่าว นับว่าให้โอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อีกทั้งมีการลงทุนในลักษณะที่มีการกระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงให้แก่ผู้ลงทุนไม่ให้อยู่ในระดับสูงเกินไป โดยตั้งแต่ต้นปีมีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 13.33% ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ให้ผลตอบแทนประมาณ 11.32% หากมองไปถึงผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี กองทุนดังกล่าวสามารถให้ผลตอบแทนถึง 108.16% ขณะที่ผลตอบแทนจากตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 93.37% ในด้านประวัติการจ่ายเงินปันผล แม้จะผ่านสภาวะผันผวนของตลาดหุ้นไทยมาร่วม 20 ปี กองทุนดังกล่าวมีการจ่ายเงินปันผลไปทั้งสิ้น 19 ครั้ง ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในเดือนมีนาคม 2537 คิดเป็นอัตรารวม 10.6990 บาทต่อหน่วย ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งกองทุนในกลุ่มกองทุนหุ้นที่มีนโยบายจ่ายปันผลที่สามารถสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้แก่ผู้ลงทุนที่ได้ค่อนข้างสม่ำเสมอเช่นเดียวกันกับกองทุนเปิดเค หุ้นปันผล (K-VALUE) และกองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) ซึ่งเป็นกองทุนในกลุ่มเดียวกันและได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนอย่างกว้างขวาง” นายจงรักกล่าว