บลจ.ธนชาตแนะลงทุนซื้อกองทุน RMF-LTF มองโอกาสดีทยอยเข้าลงทุนในช่วงนี้
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นขณะนี้อาจจะค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยคึกคักมากนัก แม้ว่าปัญหา Debt Ceiling ของสหรัฐฯ จะคลี่คลายลงไปบ้าง แต่ความกังวลใจของนักลงทุนยังคงมีไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว นักลงทุนให้ความสนใจอยู่ตลอดเวลาในช่วงนี้ จึงทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนตามกระแสข่าวที่ออกมาในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสหรัฐฯ คงสามารถหาวิธีแก้ไขปัญหานี้ได้ เนื่องจากปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่และมีผลกระทบในวงกว้าง ทั้งต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เอง และเศรษฐกิจของโลก นอกจากนี้ หากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในเวทีเศรษฐกิจโลกอย่างมากด้วย ดังนั้น แม้ว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองของสหรัฐฯ ในการแก้ไขปัญหานี้ดูจะค่อนข้างรุนแรง แต่สุดท้ายคงไม่มีใครอยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำลายเศรษฐกิจของตนเอง ทั้งๆ ที่ฐานะการเงินการคลังของประเทศไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหานี้อาจจะตกลงกันได้ก่อนกำหนดเส้นตายเพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ แม้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่ง บลจ.ธนชาต มีกองทุน RMF-LTF ให้เลือกสรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนที่เน้นในตราสาหนี้ระยะสั้น พันธบัตรรัฐบาลไทย หรือกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นทุนในประเทศ และกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรของประเทศต่างๆ ทั่วโลก และสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่ ทองคำ
ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ บลจ.ธนชาตขอนำเสนอกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น อย่าง กองทุนเปิดธนชาตมิกซ์ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (NMIXRMF) เน้นลงทุนหุ้นผสมตราสารหนี้ และกองทุนเปิด ธนชาต Low Beta เพื่อการเลี้ยงชีพ (T-LowBetaRMF) เน้นลงทุนหุ้นที่ราคาผันผวนน้อยกว่าตลาด และกองทุนเปิดธนชาตหุ้นระยะยาวปันผล (LTFD) นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ บลจ.ธนชาตเตรียมออกกองทุน กองทุนเปิดธนชาต Global Equity RMF ที่เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลก เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุน
นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นขณะนี้อาจจะค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยคึกคักมากนัก แม้ว่าปัญหา Debt Ceiling ของสหรัฐฯ จะคลี่คลายลงไปบ้าง แต่ความกังวลใจของนักลงทุนยังคงมีไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าว นักลงทุนให้ความสนใจอยู่ตลอดเวลาในช่วงนี้ จึงทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวนตามกระแสข่าวที่ออกมาในแต่ละวัน
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสหรัฐฯ คงสามารถหาวิธีแก้ไขปัญหานี้ได้ เนื่องจากปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่และมีผลกระทบในวงกว้าง ทั้งต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เอง และเศรษฐกิจของโลก นอกจากนี้ หากสหรัฐฯ ผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในเวทีเศรษฐกิจโลกอย่างมากด้วย ดังนั้น แม้ว่าปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคการเมืองของสหรัฐฯ ในการแก้ไขปัญหานี้ดูจะค่อนข้างรุนแรง แต่สุดท้ายคงไม่มีใครอยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ทำลายเศรษฐกิจของตนเอง ทั้งๆ ที่ฐานะการเงินการคลังของประเทศไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหานี้อาจจะตกลงกันได้ก่อนกำหนดเส้นตายเพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ แม้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนจะเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ซึ่ง บลจ.ธนชาต มีกองทุน RMF-LTF ให้เลือกสรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนที่เน้นในตราสาหนี้ระยะสั้น พันธบัตรรัฐบาลไทย หรือกองทุนผสมที่เน้นลงทุนในหุ้นทุนในประเทศ และกองทุนที่เน้นลงทุนในพันธบัตรของประเทศต่างๆ ทั่วโลก และสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่ ทองคำ
ในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ บลจ.ธนชาตขอนำเสนอกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น อย่าง กองทุนเปิดธนชาตมิกซ์ฟันด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (NMIXRMF) เน้นลงทุนหุ้นผสมตราสารหนี้ และกองทุนเปิด ธนชาต Low Beta เพื่อการเลี้ยงชีพ (T-LowBetaRMF) เน้นลงทุนหุ้นที่ราคาผันผวนน้อยกว่าตลาด และกองทุนเปิดธนชาตหุ้นระยะยาวปันผล (LTFD) นอกจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ บลจ.ธนชาตเตรียมออกกองทุน กองทุนเปิดธนชาต Global Equity RMF ที่เน้นลงทุนในหุ้นทั่วโลก เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้แก่นักลงทุน
