xs
xsm
sm
md
lg

ธนชาตขายกองผสมเพิ่ม มั่นใจเพิ่มยิลด์ช่วงผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ธนชาตลุยขายกองผสมเพิ่มอีก 1 กอง ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 8 ตุลาคมนี้ มั่นใจช่วยเพิ่มทางเลือกลงทุนในช่วงตลาดผันผวนทั้งในและต่างประเทศ ระบุนักลงทุนส่วนใหญ่ยังชะลอการลงทุน เหตุยังมีปัจจัยลบที่ต้องติดตามอยู่

นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด เผยแนวคิดจัดพอร์ตการลงทุนแบบเบ็ดเสร็จในกองทุนเดียวในช่วงการลงทุนผันผวนสามารถตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการของนักลงทุน ส่งผลให้เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา กองทุนเปิดธนชาต Mixed Income Fund 1 (T-MixedIncome1) ซึ่งเป็นกองทุนผสม มีอายุประมาณ 1 ปี ประสบความสำเร็จในการเสนอขายได้เต็มก่อนสิ้นสุด IPO

ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทจะทำการเปิดขาย กองทุนเปิดธนชาต Mixed Income Fund 2 (T-MixedIncome2) เป็นกองทุนรวมผสมเพิ่มอีกหนึ่งกองทุนในระหว่างวันที่ 1-8 ตุลาคม 2556 เพื่อเป็นทางเลือกในช่วงที่การลงทุนมีความผันผวนทั้งในและต่างประเทศ

จากภาพการลงทุนที่ยังไม่ชัดเจนนี้ สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการทางออกในช่วงที่ดอกเบี้ยยังคงต่ำไปอีกนาน และตราสารหนี้ต่างประเทศบางประเทศที่อาจจะให้ผลตอบแทนสูง แต่ผู้ลงทุนมีความกังวลในความเสี่ยง ด้วยการออกกองทุนเปิดธนชาต Mixed Income Fund เป็นกองทุนผสม อายุ 1 ปี ผู้จัดการกองทุนจะกำหนดสัดส่วนผสมการลงทุนในหุ้นไทย ตราสารหนี้ไทย และหรือต่างประเทศคุณภาพดีที่ให้ผลตอบแทนน่าสนใจ ตามสภาวะการลงทุนในช่วงเวลานั้นๆ

สำหรับตัวอย่างตราสารหนี้เป้าหมาย จะมีอันดับความน่าเชื่อถือประมาณ A- ถึง AAA การลงทุนในหุ้นไทยจะใช้สไตล์การบริหารพอร์ตหุ้นแบบเชิงรุก หรือ Active Style จะเน้นลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสจะได้รับผลดีจากการบริโภคอุปโภคของตลาดในประเทศและการใช้จ่ายของภาครัฐ เน้นเลือกหุ้นถูกตัวถูกจังหวะ มองหาผลตอบแทนในช่วงภาวะผันผวนตามสไตล์การบริหารกองทุนทาร์เกตฟันด์ T-Challenge ของ บลจ.ธนชาต นอกจากนั้น ในกรณีที่ประเมินว่าผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมในช่วงเวลานั้นๆ สามารถทำให้กองทุนรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติจำนวนเงินไม่ต่ำกว่า 0.50 บาทต่อหน่วยหรือ 5% ของมูลค่าหน่วยลงทุนที่เสนอขายครั้งแรก สำหรับระยะเวลาตลอดอายุกองทุน กองทุนอาจมีการขายทำกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และปรับการลงทุนไปเพิ่มในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำลง เช่น ตราสารหนี้ แทนได้

นายบุญชัยกล่าวว่า ทางบริษัทคาดว่าสภาวการณ์การลงทุนที่ผันผวนทั้งในและต่างประเทศจะส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่ชะลอการลงทุนเพื่อรอให้เหตุการณ์ต่างๆ ชัดเจนจากความไม่แน่นอนของต่างประเทศ เช่น การลดวงเงินมาตรการคิวอี การเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯ และการมีประธานกลางสหรัฐฯ คนใหม่ อีกทั้ง พ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2557 เกิดความล่าช้า ยังไม่สามารถออกเป็นกฎหมายได้ และไม่สามารถมีผลบังคับใช้ได้ทันในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ทำให้โครงการลงทุนที่จะนำมากระตุ้นเศรษฐกิจได้ชะลอลงตามไปด้วย”
กำลังโหลดความคิดเห็น