บลจ.ทหารไทยเปิดตัวระบบ TMBAM Fundlink Online ตอบโจทย์ความสะดวกลูกค้า ทั้งการลงทุนกองทุนรวมและระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพผ่านระบบออนไลน์
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้ทำการเปิดตัวบริการ TMBAM Fundlink Online ระบบธุรกรรมออนไลน์สำหรับกองทุนรวมที่ครบวงจรที่พัฒนาและปรับปรุงจากระบบเดิม เพื่อสร้างความทันสมัย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพราะเชื่อว่าหลักการลงทุนคือสิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากการติดตามข่าวสารต่างๆ ดังนั้นระบบTMBAM Fundlink Online จึงเป็นเครื่องมือที่ทำให้การลงทุนมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งจะเปิดตัวระบบนี้ในวันที่ 30 กันยายน 2556 นี้
นางสาวศิริภรณ์ ขอเกียรติวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและเทคโนโลยี กล่าวว่า การให้บริการผ่านระบบออนไลน์อินเทอร์เน็ตผ่าน www.tmbam.co.th เป็นบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าแบบเบ็ดเสร็จ ที่ออกแบบบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้า ออกแบบให้สอดคล้องกับยุคสมัยใหม่ ออกแบบโดยยึดมั่นในการพัฒนาระบบที่เรียนรู้ได้ง่าย การให้ข่าวสารการลงทุนที่มากขึ้น และการสร้างความสะดวกสบายด้วยข้อมูลและฟังก์ชันที่จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ เข้าถึงระบบได้ทุกที่ทุกเวลา ทันต่อเหตุการณ์
ด้าน นาวสาวชนันท์ดา ปันยารชุน ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายที่ปรึกษาการลงทุน-กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กล่าวว่า นอกเหนือจากการพัฒนาระบบธุรกรรมกองทุนรวมแล้ว บริษัทยังมุ่งเน้นการพัฒนาระบบเพื่อรองรับการทำธุรกรรมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้ดีและตรงตามความต้องการของสมาชิก โดยพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ต 24 ชั่วโมงที่เรียกว่า “TMBAM Fundlink M Choice Online” โดยออกแบบให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ บลจ.ทหารไทยสามารถเลือกแผนการลงทุนด้วยตนเอง ซึ่งมีให้เลือกทั้งพันธบัตร ตราสารหนี้ หุ้น ทองคำ ซึ่งสมาชิกสามารถติดตามผลการดำเนินงาน ข้อมูลข่าวสาร ข้อมูลพอร์ตการลงทุน ปรับสัดส่วนมูลค่าเงินลงทุนที่มีอยู่เดิมหรือเงินที่เข้ามาใหม่ในแบบที่ตรงต่อความต้องการของตนเองมากที่สุด
ขณะเดียวกัน ล่าสุดได้พัฒนาระบบ Auto Rebalance Plan (ARP) หรือการวางแผนปรับสัดส่วนมูลค่าเงินลงทุนอัตโนมัติ ทำให้สมาชิกสามารถวางแผนการลงทุนได้อย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้ระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนต่างไปจากระดับเดิมที่สมาชิกตั้งใจไว้
นายสมจินต์ยังกล่าวว่า ในส่วนของธุรกิจกองทุนในปีนี้มีการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 170,000 ล้านบาท โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมามีเงินลงทุนเข้ามามากในส่วนของกองรวมตราสารหนี้อย่างกองทุนเปิด ธนพลัส รวมไปถึงกองทุนต่างประเทศอย่างกองทุนที่ลงทุนในสหรัฐฯ รวมถึงกองทุนที่ลงทุนในหุ้นทั่วโลก เนื่องจากตอนนี้จะเห็นได้ว่าเงินลงทุนได้ย้ายจากตลาดเอเชียและตลาดเกิดใหม่ไปลงทุนในตลาดที่พัฒนาแล้ว ทำให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมมีการเปลี่ยนไปสู่ตลาดที่น่าสนใจ
ส่วนธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพปีนี้เติบโตอยู่ที่ 13500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปีที่ผ่านมา รวมทั้งมีลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยเป็นสมาชิกที่ใช้ระบบ M Choic ประมาณ 5,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตเพิ่มขึ้นมาหลังจากที่มีระบบดังกล่าวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา
“เนื่องจากการเลือกลงทุนอย่างมีระบบและการเลือกลงทุนในระยะยาวจะทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีมากกว่าการเลือกลงทุนด้วยการติดตามข่าวสารเพียงอย่างเดียว เช่นการลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการเลือกลงทุนหุ้นด้วยตนเอง ดังนั้น การจัดสรรลงทุนให้เหมาะสมกับความต้องการจึงเป็นเรื่องสำคัญ”
