นักวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัสแนะนักลงทุนเก็บกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯ CPN รีเทล โกรท และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศของ บลจ.ไทยพาณิชย์เข้าพอร์ต คาดรับปันผลไม่ต่ำกว่า 6% ต่อปี ขณะที่กองทุนอสังหาฯ POPF เตรียมเพิ่มทุนอีกครั้ง ลงทุนสินทรัพย์ออฟฟิศใหม่ก่อนสิ้นปีนี้
รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNRF ว่า งวดไตรมาสที่ 2/56 กองทุนมีรายงานกำไรสุทธิ 768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.8% yoy หากไม่รวมกำไรที่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุน 2.4 ล้านบาท และกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนซึ่งเกิดจากการประเมินสินทรัพย์ 210.8 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน (หรือรายได้จากการลงทุนสุทธิ) เท่ากับ 554.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% yoy มาจากรายได้ค่าเช่าและบริการ 657.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% yoy อันเป็นผลจากการปรับขึ้นค่าเช่าของทุกศูนย์การค้าเฉลี่ยเกินกว่า 5% yoy
ขณะที่อัตราการเช่าเฉลี่ยของศูนย์การค้าทั้ง 3 แห่ง คือ พระราม 2, พระราม 3 และปิ่นเกล้า รวมถึงอาคารสำนักงานปิ่นเกล้าทาวเวอร์ A และ B มีอัตราการเช่าสูงต่อเนื่องเกิน 95% นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายกองทุนงวดไตรมาสที่ 2/56 ทรงตัวเท่ากับ 131 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างทางการเงินสิ้นงวดไตรมาสที่ 2/56 มีหนี้สินจากเงินกู้ยืมลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ 395 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.2% ของ NAV และกำไรสะสมเพิ่มเป็น 1,823 ล้านบาท หรือ 1.11 บาท/หน่วย
ทั้งนี้ การดำเนินงานไตรมาสที่ 3/56 คาดว่าจะใกล้เคียงกับงวดไตรมาสที่ 2/56 เนื่องจากทุกโครงการทั้งในส่วนศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานคงมีการเช่าเต็มต่อเนื่องเกิน 95% รวมถึงปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ยอย่างน้อย 5% ต่อปี จากผู้เช่าเก่าที่ครบกำหนดสัญญาเช่าและต่อสัญญาเช่าใหม่ ขณะที่งวด 4Q5 จะเติบโตโดดเด่น ภายหลังเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหน่วยเดิม เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่แอร์พอร์ตอายุ 30 ปี มูลค่าไม่เกิน 12,600 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะทำให้กองทุนมีพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% หรือจำนวน 35,343 ตารางเมตร ถือเป็นปัจจัยผลักดันต่อการดำเนินงานเติบโตมากขึ้น ทั้งนี้ ภายใต้ประมาณการเดิมยังไม่ได้รวมการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ใหม่ คาดปี 2556 มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 2,094 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% yoy
“CPNRF ถือเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอทุกไตรมาส โดยทั้งปี 2556 คาดเงินปันผลรวม 1.20 บาท/หน่วย คิดเป็น Div Yield กว่า 6% ต่อปี และมีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาคต หากมีการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ดังกล่าวข้างต้น จึงคงแนะนำลงทุนเพื่อหวังเงินปันผล”
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัสระบุต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ หรือ POPF นั้น งวดไตรมาสที่ 2/56 กองทุนมีกำไรสุทธิ 124 ล้านบาท เติบโต 42.6% yoy หากไม่รวมกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการประเมินราคาสิทธิการเช่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 34 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน (หรือรายได้จากการลงทุนสุทธิ) อยู่ที่ 90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% yoy เกิดจากรายได้ค่าเช่าและบริการ 157.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% yoy เนื่องจากอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์มีการเช่าเต็ม 100% เทียบกับ 93% ในงวด 2Q56 หลังมีผู้เช่าใหม่เข้ามาเพิ่ม ขณะที่อัตรการเช่าของอาคารยูบีซี 2 อยู่ระดับสูงต่อเนื่อง 98% นอกจากนี้สามารถปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ยของทั้งสองอาคารได้ไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี ด้านค่าใช้จ่ายของกองทุนเพิ่มขึ้น 7% yoy อยู่ที่ 71 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างทางการเงินสิ้นไตรมาสที่ 2/56 กองทุนมีกำไรสะสม 455 ล้านบาท หรือ 1.33 บาทต่อหน่วย
ฝ่ายวิจัยคงประมาณการเดิม โดยคาดแนวโน้มการดำเนินงานงวด 2H56 จะใกล้เคียงกับงวด 1H56 เนื่องจากอาคารสำนักงานทั้งสองแห่งคงมีการเช่าสูงต่อเนื่องเกือบเต็ม 100% อีกทั้งคาดจะสามารถปรับขึ้นค่าเช่าเพิ่มขึ้นได้ 3-5% จากผู้เช่าเก่าที่หมดสัญญาเช่าและต่อสัญญาเช่าใหม่ เบื้องต้นจึงประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิงวด 2H56 น่าจะยืนได้เฉลี่ย 85-90 ล้านบาทต่อไตรมาส และทั้งปี 2556 คาดรายได้จากการลงทุนสุทธิ 353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% yoy ทั้งนี้ ในประมาณการยังไม่ได้รวมปัจจัยบวกเกี่ยวกับแผนการลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4/56
“POPF นับเป็นอีกกองทุนที่มีการดำเนินงานมั่นคง ทำให้สามารถจ่ายเงินปันสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยทั้งปี 2556 คาดเงินปันผล 1.00 บาท/หน่วย คิดเป็น Div Yield น่าสนใจถึง 7.6% ต่อปี และมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นหากกองทุนมีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ใหม่ในอนาคต”
รายงานข่าวจากฝ่ายวิจัยบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซียพลัส จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลการดำเนินงานกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาฯ CPN รีเทล โกรท หรือ CPNRF ว่า งวดไตรมาสที่ 2/56 กองทุนมีรายงานกำไรสุทธิ 768 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58.8% yoy หากไม่รวมกำไรที่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุน 2.4 ล้านบาท และกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากเงินลงทุนซึ่งเกิดจากการประเมินสินทรัพย์ 210.8 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน (หรือรายได้จากการลงทุนสุทธิ) เท่ากับ 554.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% yoy มาจากรายได้ค่าเช่าและบริการ 657.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.5% yoy อันเป็นผลจากการปรับขึ้นค่าเช่าของทุกศูนย์การค้าเฉลี่ยเกินกว่า 5% yoy
ขณะที่อัตราการเช่าเฉลี่ยของศูนย์การค้าทั้ง 3 แห่ง คือ พระราม 2, พระราม 3 และปิ่นเกล้า รวมถึงอาคารสำนักงานปิ่นเกล้าทาวเวอร์ A และ B มีอัตราการเช่าสูงต่อเนื่องเกิน 95% นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายกองทุนงวดไตรมาสที่ 2/56 ทรงตัวเท่ากับ 131 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างทางการเงินสิ้นงวดไตรมาสที่ 2/56 มีหนี้สินจากเงินกู้ยืมลดลงต่อเนื่องอยู่ที่ 395 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 2.2% ของ NAV และกำไรสะสมเพิ่มเป็น 1,823 ล้านบาท หรือ 1.11 บาท/หน่วย
ทั้งนี้ การดำเนินงานไตรมาสที่ 3/56 คาดว่าจะใกล้เคียงกับงวดไตรมาสที่ 2/56 เนื่องจากทุกโครงการทั้งในส่วนศูนย์การค้าและอาคารสำนักงานคงมีการเช่าเต็มต่อเนื่องเกิน 95% รวมถึงปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ยอย่างน้อย 5% ต่อปี จากผู้เช่าเก่าที่ครบกำหนดสัญญาเช่าและต่อสัญญาเช่าใหม่ ขณะที่งวด 4Q5 จะเติบโตโดดเด่น ภายหลังเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหน่วยเดิม เพื่อลงทุนในสิทธิการเช่าศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงใหม่แอร์พอร์ตอายุ 30 ปี มูลค่าไม่เกิน 12,600 ล้านบาท ซึ่งการลงทุนดังกล่าวจะทำให้กองทุนมีพื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้นจากเดิม 20% หรือจำนวน 35,343 ตารางเมตร ถือเป็นปัจจัยผลักดันต่อการดำเนินงานเติบโตมากขึ้น ทั้งนี้ ภายใต้ประมาณการเดิมยังไม่ได้รวมการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ใหม่ คาดปี 2556 มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 2,094 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% yoy
“CPNRF ถือเป็นกองทุนที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอทุกไตรมาส โดยทั้งปี 2556 คาดเงินปันผลรวม 1.20 บาท/หน่วย คิดเป็น Div Yield กว่า 6% ต่อปี และมีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาคต หากมีการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ดังกล่าวข้างต้น จึงคงแนะนำลงทุนเพื่อหวังเงินปันผล”
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัสระบุต่อว่า สำหรับผลการดำเนินงานกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไพร์มออฟฟิศ หรือ POPF นั้น งวดไตรมาสที่ 2/56 กองทุนมีกำไรสุทธิ 124 ล้านบาท เติบโต 42.6% yoy หากไม่รวมกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากการประเมินราคาสิทธิการเช่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 34 ล้านบาท มีกำไรจากการดำเนินงาน (หรือรายได้จากการลงทุนสุทธิ) อยู่ที่ 90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.4% yoy เกิดจากรายได้ค่าเช่าและบริการ 157.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% yoy เนื่องจากอาคารเพลินจิตเซ็นเตอร์มีการเช่าเต็ม 100% เทียบกับ 93% ในงวด 2Q56 หลังมีผู้เช่าใหม่เข้ามาเพิ่ม ขณะที่อัตรการเช่าของอาคารยูบีซี 2 อยู่ระดับสูงต่อเนื่อง 98% นอกจากนี้สามารถปรับขึ้นค่าเช่าเฉลี่ยของทั้งสองอาคารได้ไม่ต่ำกว่า 3% ต่อปี ด้านค่าใช้จ่ายของกองทุนเพิ่มขึ้น 7% yoy อยู่ที่ 71 ล้านบาท สำหรับโครงสร้างทางการเงินสิ้นไตรมาสที่ 2/56 กองทุนมีกำไรสะสม 455 ล้านบาท หรือ 1.33 บาทต่อหน่วย
ฝ่ายวิจัยคงประมาณการเดิม โดยคาดแนวโน้มการดำเนินงานงวด 2H56 จะใกล้เคียงกับงวด 1H56 เนื่องจากอาคารสำนักงานทั้งสองแห่งคงมีการเช่าสูงต่อเนื่องเกือบเต็ม 100% อีกทั้งคาดจะสามารถปรับขึ้นค่าเช่าเพิ่มขึ้นได้ 3-5% จากผู้เช่าเก่าที่หมดสัญญาเช่าและต่อสัญญาเช่าใหม่ เบื้องต้นจึงประเมินรายได้จากการลงทุนสุทธิงวด 2H56 น่าจะยืนได้เฉลี่ย 85-90 ล้านบาทต่อไตรมาส และทั้งปี 2556 คาดรายได้จากการลงทุนสุทธิ 353 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% yoy ทั้งนี้ ในประมาณการยังไม่ได้รวมปัจจัยบวกเกี่ยวกับแผนการลงทุนในสิทธิการเช่าอาคารสำนักงานแห่งใหม่ ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4/56
“POPF นับเป็นอีกกองทุนที่มีการดำเนินงานมั่นคง ทำให้สามารถจ่ายเงินปันสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยทั้งปี 2556 คาดเงินปันผล 1.00 บาท/หน่วย คิดเป็น Div Yield น่าสนใจถึง 7.6% ต่อปี และมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นหากกองทุนมีการลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ใหม่ในอนาคต”
