xs
xsm
sm
md
lg

จับตาปัญหาการเมืองกระทบหุ้น บลจ.ไทยพาณิชย์มองตลาดยังผันผวน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


บลจ.ไทยพาณิชย์มองหุ้นไทยยังผันผวน จับตาปัญหาการเมือง ทั้งจำนำข้าว นโยบายการจัดการน้ำและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงปัจจัยภายนอกที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อหุ้นไทย พร้อมแนะทยอยเก็บกองทุน LTF เข้าพอร์ต

นางโชติกา สวนานนท์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ของไทยอยู่ในระดับที่น่าสนใจในการเข้ามาลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่รอจังหวะเข้าลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ถึงแม้ว่าปัจจุบันดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่ระดับ 1,400 จุดมี PE ประมาณ 12.5 เท่าของกำไรในปี 2556 ซึ่งดูเหมือนยังสูงอยู่เมื่อเทียบกับในอดีตดัชนี ตลาดหลักทรัพย์มี PE เฉลี่ยย้อนหลัง 10 ปีอยู่ประมาณ 11.5 เท่า แต่เนื่องจากปัจจุบันมีความแตกต่าง จากอดีตที่ประเทศไทยมีปัญหาเรื่องเสถียรภาพทางการเมือง อีกทั้งแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมในปัจจุบันสูงกว่าในอดีตอยู่พอสมควร

ทั้งนี้ นโยบายการบริหารกองทุนของ บลจ.ไทยพาณิชย์จะเน้นการลงทุนในหุ้นที่ PE ไม่สูงมาก เพราะในอนาคตเศรษฐกิจจะมีความผันผวนกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ดังนั้นหุ้นที่มีผลดำเนินงานที่ดีอย่างสม่ำเสมอจะสร้างผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นที่เน้นการเติบโตจากโครงการในอนาคต

“สิ่งที่ยังต้องจับตามองคือเรื่องการเมืองภายในประเทศ ทั้งเรื่องของการจำนำข้าว นโยบายการจัดการน้ำและโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการตัดสินคดีเขาพระวิหารที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 3 นี้ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจของประเทศจีนที่มีการเติบโตที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทย และทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับลงมาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นได้”นางโชติกากล่าว

สำหรับคำแนะนำการลงทุนในช่วงนี้ นักลงทุนควรแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ เพื่อทยอยเข้าซื้อกองทุน เพราะมีโอกาสเป็นไปได้ที่ในอีก 1 ถึง 2 เดือนข้างหน้าราคาหุ้นยังมีความผันผวนต่อเนื่อง โดยกองทุน LTF ของทาง บลจ.ไทยพาณิชย์ที่น่าสนใจแบ่งเป็น 2 แบบ คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวพลัส (SCBLT2) ที่เน้นการลงทุนในหุ้นที่มีความผันผวนต่ำ ราคาต่ำกว่ามูลค่า และมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนอยู่ที่ 137.34% (ข้อมูล ณ วันที่ 28 มิ.ย. 56)

นอกจากนี้ยังมีกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ (SCBLT3) ที่เน้นการลงทุนในหุ้นที่มีการเติบโตสูง ซึ่งจะสร้างผลตอบแทนที่ดีมากในช่วงเวลาที่ตลาดปรับตัวขึ้น แต่จะมีความผันผวนของราคาอยู่พอสมควรในช่วงของการทยอยสะสม โดยกองทุนดังกล่าวมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนอยู่ที่ 145% (ข้อมูล ณ วันที่ 28 มิ.ย. 56) พร้อมกันนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ยังได้มีการจ่ายเงินปันผลสำหรับกองทุนรวม LTF สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 2555-25 มิ.ย. 2556 จำนวน 2 กองทุน คือกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว ปันผล 70/30 (SCBLT1) ในอัตรา 0.1200 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต (SCBLTT) ในอัตรา 0.1400 บาทต่อหน่วย โดยจ่ายให้ผู้ถือหน่วยไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2556 ที่ผ่านมาด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น