ผู้จัดการกองทุนต่างชาติมองหุ้นไทยยังน่าลงทุน ยังให้น้ำหนักมากกว่า 15% เน้นกลุ่มแบงก์ สื่อสาร และก่อสร้าง ยอมรับที่ผ่านมา ตลาดป่วนเพราะแรงขายของเม็ดเงินร้อน “ฟิลลิป” มองหุ้นไทยปีนี้ไปไม่ถึง 1,600 จุด พร้อมคาดการเมืองระอุแค่กระทบช่วงสั้น เพราะนักลงทุนเคยชินแล้ว
นาย Jeffrey Lee Chay khiong กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน ฟิลลิป แคปปิตอล แมทเนทเม้นท์ ประเทศสิงคโปร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นเอเชีย และตลาดหุ้นไทยยังน่าลงทุน เพราะมั่นใจว่าเศรษฐกิจอาเซียนยังขยายตัวได้สูง โดยเฉพาะไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ดังนั้น จึงยังคงน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากกว่าร้อยละ 15 โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร และธุรกิจก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง
ส่วนความผันผวน และการขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ คาดว่าจะเป็นความผันผวนระยะสั้น ซึ่งเมื่อแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่เป็นเงินร้อนชะลอลง ตลาดหุ้นไทยจะกลับมามีเสถียรภาพและขยายตัวได้ตามการเติบโตของเศรษฐกิจ และเห็นว่าช่วงนี้เป็นโอกาสที่กองทุนจะเข้าสะสมหุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาวเพราะหุ้นไทยมีราคาถูก ซึ่งปีที่ผ่านมา กองทุนของนักลงทุนญี่ปุ่นที่บริหารอยู่ได้ผลตอบแทนจากตลาดหุ้นไทยประมาณร้อยละ 30
ด้านนายวรรธนะ วงศ์สีนิล ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์การกองทุนรวม ฟิลลิป จำกัด เชื่อว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยปีนี้จะอยู่ที่ 1,400-1,500 จุด คงจะไม่ถึง 1,600 จุด โดยมองว่าปัจจัยเสี่ยงการเมืองภายในประเทศน่าจะเป็นเพียงแค่ระยะสั้น และนักลงทุนชิน และคุ้นเคยกับสถานการณ์การเมืองในประเทศ
ส่วนการถอนมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มองว่าเป็นสัญญาณดีที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะฟื้นตัว จึงไม่น่าจะมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทย ขณะที่เศรษฐกิจจีนมีการะลอลงอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไทยบ้าง แต่เชื่อว่าจีนจะแก้ไขปัญหาภายใน และกลับมาขยายตัวได้ โดยแนะนำนักลงทุนให้ทยอยเข้าลงทุนในหุ้นที่มีขนาดใหญ่ และมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ หรือ P/E ต่ำ