กบข.เผยเร่งปรับพอร์ตให้เข้ากับความเสี่ยงหลังเศรษฐกิจโลกผันผวน สหรัฐฯ ลดมาตรการ QE ค่าเงินสหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นกระทบไทยเศรษฐกิจชะลอตัว คาดโต 4%
นางสาวโสภาวดี เลิศมนัสชัย เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวในงาน GPF Symposium 2013 หัวข้อ “New Frontier of risk management in the interconnected world” ว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อให้ความรู้ในการบริหารความเสี่ยง ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญของการลงทุน เนื่องจากว่าปัจจุบันความผันผวนสูง อีกทั้งธนาคารกลางเองได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้ ส่งผลให้อัตราแลกเปลี่ยนในประเทศมีความผันผวนตาม
ทั้งนี้ ในการจัดงานครั้งนี้เราจึงได้เชิญวิทยากรที่เป็นผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาให้ความรู้ว่าควรจะบริหารความเสี่ยงอย่างไรในเชิงรุกให้มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทาง กบข.พยายามลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อเป็นการพัฒนารูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับความเสี่ยงที่มาพร้อมกับการลงทุนและผลตอบแทนที่มาควบคู่กัน นอกจากนี้แล้ว กบข.ยังต้องหาเครื่องมือใหม่ๆ เข้ามาเพื่อให้สอดคล้องกับเงินกองทุนเพื่อการเกษียณ เราจึงต้องมองในมิติใหม่ๆ ด้วย
นางสาวโสภาวดี กล่าวต่อไปว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด สามารถเริ่มปรับลดขนาดมาตรการ QE3 ลง เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นจึงต้องออกมาตรการ QE แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อปรับลด QE ลงผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าขึ้น และประเทศเกิดใหม่ก็จะได้รับผลกระทบอาจจะมีเงินไหลออก และจะทำให้ค่าเงินเกิดความผันผวนได้ ขณะที่กรณีเศรษฐกิจของยุโรปยังมองไม่เห็นถึงการฟื้นตัวในเร็วๆ นี้ ส่วนประเทศญี่ปุ่นเองยังคงต้องมีการจับตากันต่อไป
ขณะที่ประเทศจีนมีการชะลอลงไปบ้าง แต่คาดว่ายังมีการเติบโตอยู่ที่ 7% รวมถึงบ้านเราที่มีการชะลอตัวลดลง แต่อย่างไรก็ตาม การเติบโตยังอยู่ที่ 4% ที่เรายังสามารถรับได้ ส่วนเงินเฟ้อบ้านเรายังคงต้องดูการขับเคลื่อนของรัฐบาล และค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่าภาคเอกชนมีการปรับตัวลดลง เช่น โครงการน้ำ โครงการโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น ที่อาจจะทำให้เกิดความกังวลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่จะเติบโตได้ รวมถึงโครงการรถยนต์คันแรก และโครงการบ้านหลังแรกด้วย
“เราลงทุนที่ประเทศพัฒนาแล้วเนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ต่อไปนี้มีแนวโน้มที่จะไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในระยะยาว แต่ยังมองตลาดหุ้นให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวอยู่ ส่วนในตราสารหนี้ถือในระยะสั้นอาจจะมีการปรับลดน้ำหนักลงมาบ้างในเรื่องของผลตอบแทน”
ทั้งนี้ เราได้มีเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะนำมาปรับใช้ในบ้านเราด้วย โดยเราได้ทำการหาสินทรัพย์ใหม่ๆ เข้ามาลงทุน เช่น อสังหาริมทรัพย์โลก และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเราเริ่มเข้าไปลงทุนตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากนี้แล้วเรายังมองหาสินทรัพย์ใหม่ๆ ที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวก โดยจะมองผลตอบแทนเป็นหลัก
แต่อย่างไรก็ตาม พอร์ตการลงทุนของ กบข.ณ ปัจจุบันเน้นลงทุนในตราสารหนี้ 70% ลงทุนหุ้นในประเทศและต่างประเทศ 20% และที่เหลือ 10% ลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก นอกจากนี้แล้วการลงทุนของ กบข.ต้องชนะเงินเฟ้อให้ได้อย่างน้อย 2% ขึ้นไป