บลจ.กสิกรไทยเตรียมปันผล 3 กองทุน LTF รวมกว่า 329 ล้านบาท เผย Dividend Yield ทิ้งห่างตลาด กำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 12 กรกฎาคม 2556 นี้
นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า มุมมองการลงทุนหุ้นในสภาวการณ์ปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นจังหวะที่ยังมีแรงกดดันจากหลายปัจจัยที่มีผลต่อความผันผวนของการลงทุน เช่น ปัญหามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ยังสร้างความกังวลใจให้แก่นักลงทุน หรือการส่งสัญญาณในทิศทางบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งสังเกตได้จากอัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ บวกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังเป็นตัวกระตุ้นให้เม็ดเงินต่างชาติมีการทยอยไหลกลับไปสู่การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ มากขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีปัจจัยทางการเมืองในอียิปต์ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อกลุ่มพลังงาน และน้ำมัน แต่สำหรับการชะลอตัวในภาคเศรษฐกิจจีน หรือปัญหาเศรษฐกิจในยูโรโซนยังคงเป็นความกังวลที่มีอยู่ ดังนั้นผู้ลงทุนจึงอาจจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายปันผลกองทุนหุ้น และ LTF รวม 3 กองทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 โดยประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ในอัตรา 1.08 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ในอัตรา 0.52 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค สตราทีจิค ดีเฟ็นซีฟหุ้นระยะยาวปันผล (KSDLTF) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ในอัตรา 0.16 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 12 กรกฎาคม 2556 มูลค่าการจ่ายปันผลรวม 329.45 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานของทั้ง 3 กองทุนที่มีการจ่ายปันผลในครั้งนี้นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยกองทุน K-EQUITY กองทุน RKF-HI และกองทุน KSDLTF ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ในรอบปีที่ผ่านมาที่ 12.45% 7.55% และ 3.13% ตามลำดับ ขณะที่ Dividend Yield ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการจ่ายปันผลอยู่ที่ 2.75% เท่านั้น
นายประเสริฐ ขนบธรรมชัย รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า มุมมองการลงทุนหุ้นในสภาวการณ์ปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นจังหวะที่ยังมีแรงกดดันจากหลายปัจจัยที่มีผลต่อความผันผวนของการลงทุน เช่น ปัญหามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ยังสร้างความกังวลใจให้แก่นักลงทุน หรือการส่งสัญญาณในทิศทางบวกของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งสังเกตได้จากอัตราการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ บวกกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยังเป็นตัวกระตุ้นให้เม็ดเงินต่างชาติมีการทยอยไหลกลับไปสู่การลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ มากขึ้น นอกเหนือจากนี้ยังมีปัจจัยทางการเมืองในอียิปต์ ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อกลุ่มพลังงาน และน้ำมัน แต่สำหรับการชะลอตัวในภาคเศรษฐกิจจีน หรือปัญหาเศรษฐกิจในยูโรโซนยังคงเป็นความกังวลที่มีอยู่ ดังนั้นผู้ลงทุนจึงอาจจะติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายปันผลกองทุนหุ้น และ LTF รวม 3 กองทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีชื่อในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 โดยประกอบด้วย กองทุนเปิดเค หุ้นทุน (K-EQUITY) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ในอัตรา 1.08 บาทต่อหน่วย กองทุนเปิดรวงข้าวทวีผล (RKF-HI) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ในอัตรา 0.52 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดเค สตราทีจิค ดีเฟ็นซีฟหุ้นระยะยาวปันผล (KSDLTF) สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2555 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2556 ในอัตรา 0.16 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมกันในวันที่ 12 กรกฎาคม 2556 มูลค่าการจ่ายปันผลรวม 329.45 ล้านบาท
โดยผลการดำเนินงานของทั้ง 3 กองทุนที่มีการจ่ายปันผลในครั้งนี้นับว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ โดยกองทุน K-EQUITY กองทุน RKF-HI และกองทุน KSDLTF ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ในรอบปีที่ผ่านมาที่ 12.45% 7.55% และ 3.13% ตามลำดับ ขณะที่ Dividend Yield ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการจ่ายปันผลอยู่ที่ 2.75% เท่านั้น