บลจ.วรรณแนะนักลงทุนทยอยเก็บทองคำเข้าพอร์ตหลังราคาใกล้แตะ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นราคาที่ใกล้เคียงกับต้นทุนการผลิต พร้อมมองราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างมากจากความกังวลต่อการชะลอมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) ของทางธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่ 2/2556 และดิ่งลงกว่า 24% นับตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ ขณะที่สัดส่วนการถือครองทองคำของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็ได้ปรับลดลง 16.9% มาแตะระดับ 964.69 ตันเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2556 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 52 ที่ถือครองทองคำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,127.68 ตัน
“ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาราคาทองคำได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างรุนแรงจากระดับราคาที่เคยสูงสุด 1,890.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 1,223.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในวันที่ 5 ก.ค. 56 ซึ่งเป็นระดับราคาที่ใกล้เคียงกับต้นทุนการผลิตที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์แล้ว ทั้งนี้คาดว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นได้หากราคาน้ำมันในตลาดโลกมีการปรับตัวสูงขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นที่มีการส่งสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเด่นชัดมากที่สุด ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีการแข็งค่าขึ้นค่อนข้างมากจากการที่นักลงทุนต่างคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจมีการชะลอมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) ซึ่งทำให้เรามองว่าราคาทองคำในระยะถัดไปโดยเฉพาะในไตรมาสที่ 3/2556 น่าจะเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพมากขึ้น รวมทั้งแรงกดดันของการปรับลงของราคาทองคำก็น่าจะเบาบางลง”
ทั้งนี้ จากราคาทองคำในขณะนี้ได้ปรับลดลงใกล้เคียงกับระดับราคาทองคำที่ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามที่เราได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า ประกอบกับมุมมองเชิงบวกต่อราคาทองคำที่คาดว่าน่าจะมีโอกาสฟื้นตัวได้จากแรงซื้อคืนของนักลงทุน (Rebound) ในกรอบแคบๆ มาอยู่ที่ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากปริมาณทองคำที่อาจปรับลดลงหากผู้ผลิตทองคำตัดสินใจปรับลดการผลิตหากต้นทุนการผลิตทองคำเพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งแรงหนุนจากความต้องการซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในภาวะที่หลายประเทศต้องเผชิญกับแรงกดดันทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มยูโรโซน หรือการประท้วงในอียิปต์หากยังคงดำเนินต่อไป รวมทั้งการเข้าสู่เทศกาลซื้อทองคำของชาวอินเดียเมื่อใกล้เข้าสู่ไตรมาสที่ 4/2556
นอกจากนี้ ด้วยมุมมองที่เรามองว่าค่าเงินดอลลาร์น่าจะมีแนวโน้มที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งเศรษฐกิจไทยที่ประกาศออกมายังบ่งชี้ถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้น ทำให้ บลจ.วรรณประเมินว่าในช่วงนี้นับเป็นจังหวะการลงทุนที่ดีที่นักลงทุนจะเริ่มทยอยซื้อสะสมในทองคำเพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการลงทุน โดยนักลงทุนยังคงติดตามภาวะการลงทุนอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่างๆ ของประเทศแกนหลัก เนื่องจากประเด็นดังกล่าวย่อมส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำเช่นเดียวกัน
สำหรับนักลงทุนที่นิยมลงทุนในทองคำและสนใจลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี บลจ.วรรณแนะนำการลงทุนในกองทุนเปิดวรรณโกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (GOLD-RMF) ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV กองทุน ขณะที่หากนักลงทุนสนใจกองทุน ETF สามารถลงทุนในกองทุน GOLD99 ETF ซึ่งเน้นลงทุนในทองคำแท่ง 99.99%
