มติเฟดคงกระตุ้นศก.แต่ถ้อยแถลงฉุดหุ้นมะกันดิ่ง ทองคำขึ้น-น้ำมันทรงตัว

เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(19) มีมติคงปริมาณโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง อ้างถึงอัตราว่างงานระดับสูงและผลกระทบของการตัดลดรายจ่ายแบบเหมารวมโดยอัตโนมัติของรัฐบาล แต่ด้วยที่แบะท่าพร้อมปรับลดระดับลงหากเศรษฐกิจดีขึ้นก็ฉุดให้วอลล์สตรีท ปิดลบแรง อย่างไรก็ตามราคาทองคำเมินปัจจัยดังกล่าวปรับขึ้นเล็กน้อย ส่วนน้ำมันปิดทรงตัว

เบน เบอร์นันกี ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) แย้มว่าหากเศรษฐกิจยังคงขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ เฟดก็อาจจะเริ่มปรับลดโครงการเข้าซื้อพันธบัตรเดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ลงในช่วงปลายปีนี้ และยุติมาตรการดังกล่าวในช่วงปลายปี 2014

"นั่นย้ำให้เห็นว่าแผนเข้าซื้อของเราสัมพันธ์กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ" เบอร์นันกีกล่าว พร้อมเผยว่าสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ(FOMC) คาดการณ์ล่วงหน้าว่าอาจจะค่อยๆมีการลดระดับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลักลงในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า

"ณ ปัจจุบัน คณะกรรมการฯคาดหมายว่าช่วงปลายปีนี้ น่าจะเป็นช่วยเวลาที่เหมาะสมสำหรับเพลาปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรรายเดือน" เบอร์นันกีกล่าว พร้อมบอกว่าหากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจตรงตามที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินคาดหมาย "เราก็จะค่อยๆลดระดับมาตรการเข้าซื้อไปตลอดช่วงครึ่งปีแรกของปีหน้าและยุติโครงการในช่วงกลางปี"

คำแถลงดังกล่าวแม้จะเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ แต่ก็ก่อความกังวลต่อนักลงทุนไม่น้อย และฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(19) ปิดลบอย่างแรง

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 205.50 จุด (1.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,112.73 จุด แนสแดก ลดลง 38.98 จุด (1.12 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,443.20 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 22.85 จุด (1.38 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,628.85 จุด

ถ้อยแถลงของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุด้วยว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯยังคงเติบโตในอัตราปานกลาง แต่ความเสี่ยงด้านลบคลี่คลายแล้ว อย่างไรก็ตามเตือนว่าหากกระชับมาตรการทางการเงินในตอนนี้ก็อาจเป็นการเหนี่ยวรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ "สภาวะของตลาดแรงงานแสดงสัญญาณดีขึ้นเมื่อช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่อีกด้านหนึ่งอัตราคนว่างงานยังคงอยู่ในระดับสูง" คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินชี้ไปยังอัตราการจ้างงานซึ่งยังไม่เป็นที่พอใจ

ทั้งนี้คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน คาดหมายว่าอัตราคนว่างงานจะลดลงมากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ เหลือต่ำสุดราวๆร้อยละ 7.2 ในช่วงสิ้นปี จากร้อยละ 7.6 ในปัจจุบัน และอาจจะลงลงแตะระดับร้อยละ 6.5 ในช่วงสิ้นปี 2014

ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินก็ประมาณการณ์ด้วยว่าอัตราเงินเฟ้อจะเบาบางกว่าที่คาดหมายไว้เมื่อเดือนมีนาคม และจะไม่ก่อความเสี่ยงใดๆต่อเศรษฐกิจแม้ทางธนาคารกลางจะเดินหน้านโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ(QE) ต่อไป เช่นเดียวกับมติคงอัตราดอกเบี้ยเตี้ยติดดินร้อยละ0-0.25 ที่คงระดับนี้มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2008

เบอร์นันกี ย้ำว่าการชะลอเข้าซื้อพันธบัตรไม่ใช่การกระชับนโยบายทางการเงิน แต่ "มันเหมือนกับการค่อยๆผ่อนคันเร่งหลังจากรถยนต์แล่นด้วยความเร็วสูงสุด ไม่ใช่การเริ่มต้นแตะเบรค" เขากล่าว

ด้านราคาน้ำมันวานนี้(19) ปิดผสมผสาน ด้วยแรงกดดันจากข้อมูลเชื้อเพลิงสำรองของอเมริกาและสถานการณ์ความรุนแรงในซีเรีย

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 98.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดที่ 106.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

กระทรวงพลังงานสหรัฐฯเมื่อวันพุธ(19) บอกว่าราคาน้ำมันดิบสำรองสหรัฐฯในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 300,000 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะลดลง 400,000 บาร์เรล บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่อ่อนแอลงในชาติผู้บริโภครายใหญ่ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันลอนดอน ปิดบวก เหตุเพราะนักลงทุนจับตาไปที่สถานการณ์อันคุกรุ่นขึ้นเรื่อยในซีเรีย ที่ก่อความกังวลว่ามันอาจลุกลามไปยังชาติอื่นๆในตะวันออกกลาง

ส่วนราคาทองคำวานนี้(19) เมินถ้อยแถลงเฟดที่แย้มอาจปรับลดปริมาณโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคตอันใกล้หากพบเห็นการเติบโตอย่างมั่นคง และปิดบวกเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 7.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,374.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์