เชียงราย - ชาวบ้าน ต.แม่สายกว่า 500 คนร่วมชุมนุมค้านโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียที่เทศบาลตำบลเตรียมก่อสร้าง ลั่นให้ยุติโครงการทันที เหตุไม่ทำประชาพิจารณ์ พร้อมยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ หากภายใน 30 วันไม่เป็นผลจะทวงถามอีกครั้ง
วันนี้ (17 มิ.ย.) ประชาชนจากพื้นที่หมู่ 1-2 หมู่ 6-7 และ 10 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 500 คน นำโดยนายปรีชา ศรีเพ็ชร อดีตปลัดอำเภอแม่สาย ซึ่งเป็นชุมชนที่ตั้งอยู่หน้าด่านพรมแดนไทย-พม่า ชุมนุมคัดค้านโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียของเทศบาลตำบลแม่สาย ซึ่งได้รับงบประมาณจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประมาณ 260 ล้านบาท ได้เคลื่อนขบวนไปยังสำนักงานเทศบาลตำบลแม่สาย จากนั้นได้วางพวงหรีดและมัดผ้าดำที่เสาเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการไว้ทุกข์ที่ทางฝ่ายบริหารเทศบาล นำโดยนายไศลยนต์ ศรีสมุทร นายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) เห็นชอบกับโครงการดังกล่าว แต่ไม่ได้ยื่นหนังสือต่อทางเทศบาลฯ
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนต่อไปยังที่ว่าการอำเภอแม่สาย เพื่อยื่นหนังสือต่อนายสมชัย รุ่งสาคร นายอำเภอแม่สาย โดยก่อนยื่นหนังสือมีการปราศรัยระบุว่าไม่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ชาวบ้านไม่ทราบรายละเอียด และการกระทำประชาพิจารณ์ก็มีเงื่อนงำ เกรงว่าจะได้รับผลกระทบ รวมทั้งยังพาดพิงถึงกำนันว่าไม่เห็นใจประชาชนในพื้นที่แต่กลับไปสนับสนุนเทศบาลฯ ดำเนินโครงการดังกล่าว ทั้งนี้ วันเดียวกันนี้ได้มีบรรดาผู้ใหญ่บ้านเดินทางไปให้กำลังใจกำนันคนดังกล่าวด้วย
ต่อมานายสมชัยรับหนังสือจากนายปรีชา เนื้อหาระบุว่า เทศบาลฯ ได้ทำประชาพิจารณ์โดยไม่ผ่านขั้นตอนตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ คือ ไม่ได้จัดทำประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึง ประชาชนไม่มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ดังนั้นจึงขอยื่นหนังสือผ่านอำเภอไปยังผู้ว่าราชการจังวัดให้ทำการตรวจสอบ และให้ความเป็นธรรมแก่ประชาชนด้วย ทั้งนี้ หลังยื่นหนังสือทางอำเภอพยายามจะชี้แจง แต่ทางนายปรีชาระบุว่าโครงการไม่ทำประชาพิจารณ์อย่างโปร่งใส จึงไม่ต้องชี้แจง แต่ให้ยุติโครงการทันที จากนั้นจึงสลายตัวไป
นายปรีชากล่าวว่า ได้ยื่นข้อเสนอไป 2 ข้อ คือ 1. ขอให้ระงับโครงการเพราะถือว่าขัดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญเนื่องจากไม่มีการทำประชาพิจารณ์จากชุมชน และ 2. ประชาชนขอทราบผลการดำเนินงานภายใน 30 วัน ถ้าถึงระยะเวลาแล้วยังไม่ได้คำตอบก็จะพากันไปทวงคำตอบกันอีกครั้ง
ด้านนายสมชัยกล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับฝ่ายปกครองอำเภอโดยตรง เพราะเป็นโครงการที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้รับงบประมาณและเข้าไปดำเนินการ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องของประชาชน ดังนั้น ฝ่ายปกครองยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย โดยเมื่อฝ่ายผู้ร้องไม่อยากให้มีการก่อสร้าง โดยอ้างเหตุผลว่าไม่มีการทำประชาพิจารณ์ที่ถูกต้อง ทางอำเภอก็จะสอบถามเรื่องนี้ไปยังเทศบาลฯ ต่อไป ส่วนจะถึงขั้นสั่งระงับโครงการคงทำไม่ได้เพราะเป็นอำนาจของหน่วยงานที่เกี่ยวกับการก่อสร้างโดยตรง โดยจะทำหนังสือไปยังเทศบาลฯ ต่อไป
ข่าวแจ้งว่า การชุมนุมครั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุมได้แจกจ่ายสำเนาข่าวตั้งแต่ปี 2551 ระบุคำให้สัมภาษณ์ผู้บริหารเทศบาลฯ คนหนึ่งว่า จะมีการก่อสร้างบริเวณตลาดการค้าไม้ลุงขนไปถึงชุมชนเกาะทราย บ้านผามควาย บ้านเหมืองแดง และบ้านป่ายาง ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทุกหมู่บ้านดังกล่าว