กระบี่ - การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ปรับแผนเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ จ.กระบี่ พร้อมยุติโครงการสำรวจเส้นทางขนถ่ายที่ท่าเทียบเรือสะพานช้าง ต.คลองขนาน อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ แล้ว หลังมีกระแสต่อต้านจากชุมชน หันไปศึกษาผลกระทบท่าเรือคลองรั้วแทน
วันนี้ (20 พ.ค.) ว่าที่ พ.ต.อนุชาต ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสิ่งแวดล้อมโครงการ-วิชาการ (ผช.อสค.ว.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินแห่งใหม่ ขนาดกำลังการผลิต 800 เมกะวัตต์ ที่ อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวจะมีการยกเลิกโครงการฯ นั้น ขณะนี้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ยังไม่ได้มีการยกเลิกโครงการตามที่เป็นข่าวออกมาก่อนหน้านี้แต่อย่างใด เพียงแต่ยุติโครงการสำรวจเส้นทางไปลำเลียงถ่านหินจากเดิม คือ บริเวณท่าเทียบเรือสะพานช้าง ต.คลองขนาน เปลี่ยนไปเป็นบริเวณท่าเทียบเรือบ้านคลองรั้ว ต.ตลิ่งชัน อ.เหนือคลอง ซึ่งเป็นเส้นทางเดิมที่มีการขนถ่ายน้ำมันเตาในโรงไฟฟ้าปัจจุบัน ขณะนี้อยู่ระหว่างขออนุญาตขอสำรวจพื้นที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และสุขภาพ รวมทั้งวิถีชีวิตชุมชนในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ว่าที่ พ.ต.อนุชาต กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ต้องยกเลิกโครงการสำรวจเส้นทางลำเลียงถ่านหินที่สะพานช้าง ต.คลองขนาน นั้น เนื่องจากที่ผ่านมา ได้มีการทำประชาพิจารณ์รับฟังความคิดเห็นประชาชนไปแล้ว 2 ครั้ง ทั้ง ค.1 และ ค.2 แต่ก็ยังมีกระแสต่อต้านจากประชาชน ซึ่งแยกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มพิทักษ์ปกาสัย และสมาคมชาวประมงจังหวัดกระบี่ ซึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องยุติโครงการนั้น เนื่องจากมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชาวประมง และกระทบต่อแหล่งอาศัยสัตว์น้ำ ปะการัง แหล่งหญ้าทะเล เป็นต้น จึงต้องยกเลิกเส้นทางดังกล่าว แต่จะเดินหน้าสำรวจเส้นทางใหม่ที่บริเวณท่าเทียบบ้านคลองรั้วแทน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการสำรวจต่อไปจะทำให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด เพราะประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วย และมีกระแสต่อต้านน้อย
สำหรับเส้นทางลำเลียงถ่านหินจากท่าเรือคลองรั้วนั้น ในเบื้องต้นได้มีการศึกษาเส้นทางลำเลียงถ่านหินไปยังโรงไฟฟ้าไว้ 3 เส้นทาง คือ เส้นทางแรก จะตัดผ่าน ตัวลำคลองย่านสะบ้า และชุมชนบ้านท่ายาง เส้นทางที่ 2 จะเลี่ยงชุมชนไปแต่จะต้องตัดไปทางป่าชายเลน และที่ดิน ส.ป.ก. และเส้นทางที่ 3 ก็จะอ้อมหมู่บ้านไปทางทิศเหนือ และตัดเข้าสู่ท่าเทียบเรือคลองรั้ว ลำเลียงเข้าโรงไฟฟ้า ซึ่งทั้ง 3 เส้นทางนี้คาดว่าจะเริ่มทำการสำรวจ และศึกษาผลกระทบได้ภายในเดือนกันยายน และตุลาคมปีนี้ และระหว่างนี้ก็จะลงพื้นที่พบปะชาวบ้านเพิ่มขึ้น