บลจ.กรุงไทยส่งกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นเอาใจนักลงทุน ลงทุน 6 เดือนให้ผลตอบแทน 3.00% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนทรงตัว รุ่นอายุ 1 เดือน-1 ปีมีการเคลื่อนไหวระหว่าง 0 ถึง +1 bps ซึ่งระดับที่ซื้อในปัจจุบันอยู่ในอัตราระหว่าง 2.71-2.75% หลังจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามามีผลกระทบต่อตลาด อัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงตามผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ (US Treasury) ตามแรงซื้อที่เข้าสู่สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ (Safe Haven)
สำหรับภาวะตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ในกรอบแคบๆ และล่าสุดแกว่งในช่วง 28.95-29.04 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้เหตุผลของการแข็งค่าอย่างรวดเร็วว่ามีสาเหตุมาจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่อัดฉีดเงินเข้าระบบ 7 ล้านล้านเยนต่อเดือน ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก และเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (BTSGIF) ซึ่ง ธปท.ได้ทำการติดตามและเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการเตรียมพร้อมรับมืออย่างเหมาะสม
ในสัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 80 (KTSUPB80) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 29 เมษายน 2556 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้/ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน/บริษัทเอกชนในประเทศ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี
นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 2 (KTFIX3M2) ถึงวันที่ 26 เมษายน 2556 เป็นกองทุนประเภท Roll Over อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ พันธบัตรภาครัฐในประเทศ 57% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารธนชาต ธนาคารทิสโก้ และธนาคารออมสิน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.55% ต่อปี
นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดตราสารหนี้ไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนทรงตัว รุ่นอายุ 1 เดือน-1 ปีมีการเคลื่อนไหวระหว่าง 0 ถึง +1 bps ซึ่งระดับที่ซื้อในปัจจุบันอยู่ในอัตราระหว่าง 2.71-2.75% หลังจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามามีผลกระทบต่อตลาด อัตราผลตอบแทนที่ปรับตัวลดลงส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงตามผลตอบแทนของพันธบัตรสหรัฐฯ (US Treasury) ตามแรงซื้อที่เข้าสู่สินทรัพย์ความเสี่ยงต่ำ (Safe Haven)
สำหรับภาวะตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทอยู่ในกรอบแคบๆ และล่าสุดแกว่งในช่วง 28.95-29.04 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทแข็งค่าขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ให้เหตุผลของการแข็งค่าอย่างรวดเร็วว่ามีสาเหตุมาจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่อัดฉีดเงินเข้าระบบ 7 ล้านล้านเยนต่อเดือน ส่งผลให้เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก และเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (BTSGIF) ซึ่ง ธปท.ได้ทำการติดตามและเฝ้าระวังการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการเตรียมพร้อมรับมืออย่างเหมาะสม
ในสัปดาห์นี้บริษัทเปิดจำหน่าย 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ บี 80 (KTSUPB80) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 29 เมษายน 2556 อายุโครงการ 6 เดือน มูลค่า 7,000 ล้านบาท เน้นลงทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วน 70% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในหุ้นกู้/ตั๋วแลกเงิน สถาบันการเงิน/บริษัทเอกชนในประเทศ ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี
นอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 2 (KTFIX3M2) ถึงวันที่ 26 เมษายน 2556 เป็นกองทุนประเภท Roll Over อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ พันธบัตรภาครัฐในประเทศ 57% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารธนชาต ธนาคารทิสโก้ และธนาคารออมสิน ผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.55% ต่อปี