กรุงไทย-แอกซ่าประกันชีวิต ขยับบุกตลาดประกันสุขภาพมากขึ้น ระบุเน้นกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองมากกว่าออมทรัพย์ หลังพบข้อมูลคนไทยยังมีความต้องการด้านนี้อยู่ ยันคงสัดส่วนลงทุนหุ้นเท่าเดิม แต่อาจมีการปรับพอร์ตได้หากสินค้าประเภทประกันสุขภาพขายดี
นายนิโคลาส์ โฟวาร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่านการเงิน บริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลยุทธ์ของบริษัทฯ ในปีนี้จะเน้นการขายสินค้าประเภทคุ้มครองสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากมองว่าคนไทยยังมีความต้องการสินค้าประเภทนี้อยู่
ส่วนการลงทุนของบริษัทฯ ในปีนี้จะยังไม่ปีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็พร้อมปรับพอร์ตการลงทุนใหม่หากสินค้าประกันสุขภาพมีการเติบโตมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับเม็ดเงินและประเภทของสินค้าที่บริษัททำการขายไป
ขณะที่ทิศทางการลงทุนในตราสารทุนปีนี้ ยังคงระดับสัดส่วนการลงทุนที่ 10% ต่อเนื่องมาจากช่วงปีที่ผ่านมา แม้ว่าดัชนีหุ้นไทยปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม แต่ความผันผวนมีค่อนข้างสูงมากเช่นกัน การตัดสินใจเข้าลงทุนจำเป็นต้องศึกษาเป็นอย่างดี รับว่ามีการเฝ้าดูการลงทุนในหุ้นตลอดเวลาเพื่อศึกษาก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน แต่ทั้งนี้ต้องรอดูเม็ดเงินจากพอร์ตประกันสุขภาพ เชื่อว่า น่าจะเติบโตดีกว่าช่วงปีที่ผ่านมาแน่นอน
สำหรับสัดส่วนการลงทุนปีนี้ยังคงเป็นสัดส่วนเดิมของปีที่ผ่าน แบ่งเป็นหุ้นทุน 10% หุ้นกู้เอกชน 22% พันธบัตรรัฐบาล 62% และตราสารการเงินระยะสั้นและเงินสด 6% ส่วนสินทรัพย์ภายใต้การบริหารปัจจุบันอยู่ที่ 72,206 ล้านบาท
นายนิโคลส์กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินบริษัทช่วงปี 2555 พบว่า บริษัทฯ มีรายได้จากเบี้ยปีแรก 1,0496 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 48% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 7,100 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากเบี้ยเพิ่มขึ้น 37% อยู่ที่ 28,900 ล้านบาท
อัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารงานอยู่ที่ระดับ 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.2% สะท้อนถึงการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างดีและมีการควบคุมทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ด้านสินทรัพย์ภายใต้การบริหารงานเติบโตขึ้น 40% อยู่ที่ 72,206 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนการลงทุนยังคงระดีบเดิม แบ่งเป็นหุ้นทุน 10% หุ้นกู้เอกชน 22% พันธบัตรรัฐบาล 62% และตราสารการเงินระยะสั้นและเงินสด 6%
"ปี 55 ถือเป็นปีที่บริิษัทฯ เติบโตดี โดยมียอดขายที่สูงจาก 3 ช่องทางการจัดจำหน่าย แบ่งเป็นช่องทางการขายผ่านธนาคาร 52% ช่องทางตัวแทน 43% และช่องทางผ่านองค์กร 5% อย่างไรก็ตาม โดยช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคารสามารถสร้างยอดขายได้อย่างดี โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก" นายนิโคลาส์กล่าว
นายนิโคลาส์กล่าวว่า จะเห็นว่าการสนับสนุนจากพันธมิตรดังกล่าวสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 5,443 ล้านบาท เติบโต 152% ปัจจุบันมีนายหน้าประกันชีวิตก้า 10,000 ราย พร้อมให้คำแนะนำและบริการลูกค้าในสาขาของธนาคารทั่วประเทศ 1,066 สาขา
ด้านช่องทางตัวแทนช่วงปีที่ผ่านมาสามารถสร้่างยอดขายได้ 4,561 ล้านบาท เติบโต 143% และตัวแทนของบริษัทเป็นตัวแทนที่สามารถผลิตเบี้ยประกันชีวิตเฉลี่ยต่อตัวแทนได้สูงที่สุดในอุตสาหกรรมที่ 52,000 บาทต่อัวแทนต่อเดือน ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธุรกิตองค์กรเติบโตดีเช่นกัน
นายนิโคลาส์ โฟวาร์ค ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่านการเงิน บริษัทกรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลยุทธ์ของบริษัทฯ ในปีนี้จะเน้นการขายสินค้าประเภทคุ้มครองสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากมองว่าคนไทยยังมีความต้องการสินค้าประเภทนี้อยู่
ส่วนการลงทุนของบริษัทฯ ในปีนี้จะยังไม่ปีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็พร้อมปรับพอร์ตการลงทุนใหม่หากสินค้าประกันสุขภาพมีการเติบโตมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับเม็ดเงินและประเภทของสินค้าที่บริษัททำการขายไป
ขณะที่ทิศทางการลงทุนในตราสารทุนปีนี้ ยังคงระดับสัดส่วนการลงทุนที่ 10% ต่อเนื่องมาจากช่วงปีที่ผ่านมา แม้ว่าดัชนีหุ้นไทยปีนี้จะปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม แต่ความผันผวนมีค่อนข้างสูงมากเช่นกัน การตัดสินใจเข้าลงทุนจำเป็นต้องศึกษาเป็นอย่างดี รับว่ามีการเฝ้าดูการลงทุนในหุ้นตลอดเวลาเพื่อศึกษาก่อนตัดสินใจเข้าลงทุน แต่ทั้งนี้ต้องรอดูเม็ดเงินจากพอร์ตประกันสุขภาพ เชื่อว่า น่าจะเติบโตดีกว่าช่วงปีที่ผ่านมาแน่นอน
สำหรับสัดส่วนการลงทุนปีนี้ยังคงเป็นสัดส่วนเดิมของปีที่ผ่าน แบ่งเป็นหุ้นทุน 10% หุ้นกู้เอกชน 22% พันธบัตรรัฐบาล 62% และตราสารการเงินระยะสั้นและเงินสด 6% ส่วนสินทรัพย์ภายใต้การบริหารปัจจุบันอยู่ที่ 72,206 ล้านบาท
นายนิโคลส์กล่าวว่า สำหรับผลการดำเนินบริษัทช่วงปี 2555 พบว่า บริษัทฯ มีรายได้จากเบี้ยปีแรก 1,0496 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโต 48% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 7,100 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากเบี้ยเพิ่มขึ้น 37% อยู่ที่ 28,900 ล้านบาท
อัตราค่าใช้จ่ายในการบริหารงานอยู่ที่ระดับ 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 7.2% สะท้อนถึงการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างดีและมีการควบคุมทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ด้านสินทรัพย์ภายใต้การบริหารงานเติบโตขึ้น 40% อยู่ที่ 72,206 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนการลงทุนยังคงระดีบเดิม แบ่งเป็นหุ้นทุน 10% หุ้นกู้เอกชน 22% พันธบัตรรัฐบาล 62% และตราสารการเงินระยะสั้นและเงินสด 6%
"ปี 55 ถือเป็นปีที่บริิษัทฯ เติบโตดี โดยมียอดขายที่สูงจาก 3 ช่องทางการจัดจำหน่าย แบ่งเป็นช่องทางการขายผ่านธนาคาร 52% ช่องทางตัวแทน 43% และช่องทางผ่านองค์กร 5% อย่างไรก็ตาม โดยช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคารสามารถสร้างยอดขายได้อย่างดี โดยได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก" นายนิโคลาส์กล่าว
นายนิโคลาส์กล่าวว่า จะเห็นว่าการสนับสนุนจากพันธมิตรดังกล่าวสามารถสร้างยอดขายได้สูงถึง 5,443 ล้านบาท เติบโต 152% ปัจจุบันมีนายหน้าประกันชีวิตก้า 10,000 ราย พร้อมให้คำแนะนำและบริการลูกค้าในสาขาของธนาคารทั่วประเทศ 1,066 สาขา
ด้านช่องทางตัวแทนช่วงปีที่ผ่านมาสามารถสร้่างยอดขายได้ 4,561 ล้านบาท เติบโต 143% และตัวแทนของบริษัทเป็นตัวแทนที่สามารถผลิตเบี้ยประกันชีวิตเฉลี่ยต่อตัวแทนได้สูงที่สุดในอุตสาหกรรมที่ 52,000 บาทต่อัวแทนต่อเดือน ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธุรกิตองค์กรเติบโตดีเช่นกัน
