xs
xsm
sm
md
lg

เอไอเอลุยขายยูนิตลิ้งค์เต็มสูบ มั่นใจตอบโจทย์ลูกค้าชอบเสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพประกอบจากเเฟ้ม
เอไอเอ ประเทศไทย ตั้งเป้าปีนี้เน้นสร้างผลิตภัณฑ์ครบวงจร เตรียมออก “ยูนิตลิ้งค์” เอาใจลูกค้าชอบเสี่ยงได้ผลตอบแทนสูงแต่ต้องลงทุนระยะยาว ด้านเอไอเอกรุ๊ปเดินหน้ารองรับ AEC เปิดบริษัทที่ประเทศพม่า เผยปี 55 เบี้ยประกันรับปีแรก หรือ ANP มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 14% หรือเงินไทย 16,556 ล้านบาท ส่วนมาร์เกตแชร์ปรับตัวลง 28%

มร.รอน แวน โอเยน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปี 2556 บริษัทฯ ยังคงมุ้งเน้นกับการออกผลิตภัณฑ์คุ้มครองและการทำประกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง โดยจะคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้กำลังรอการอนุมัติอยู่ ส่วนในเรื่องของการขยายช่องทางตัวแทนยังจะทำอย่างต่อเนื่อง ให้ทุกที่มีตัวแทนทุกแห่ง และเมื่อเข้าสู่ยุคดิจิตอล ตัวแทนจะต้องใช้เครื่องมือที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เร็วและง่ายขึ้น

“บริษัทฯ จะเน้นออกผลิตภัณฑ์ยูนิตลิ้งค์ หรือประกันชีวิตควบการลงทุน สำหรับลูกค้าที่ต้องการผลตอบแทนที่สูง เนื่องจากว่าปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยเริ่มต่ำลง บริษัทจึงอยากเน้นความคุ้มครองที่เข้าไปลงทุนในตลาดหุ้น และสามารถให้ผลตอบแทนที่สูง ซึ่งการลงทุนประเภทนี้สามารถเลือกลงทุนให้ตัวเองได้ว่าต้องการแบบเสี่ยงมากหรือเสี่ยงน้อยแต่เป็นการลงทุนระยะยาว”

นอกจากนี้แล้ว ในส่วนของ AEC กำลังจะเปิดบริษัทใหม่ที่ประเทศพม่า ซึ่งขณะนี้กำลังดำเนินการเปิดอยู่ แต่จะทำการขายได้ในช่วงเวลา 2-3 ปีข้างหน้านี้ โดยจัดตั้งเป็นสำนักงานแบบไม่มีสาขา ขณะที่ประเทศลาว บริษัทเอไอเอกรุ๊ป ไม่มีแผนที่จะเปิดในขณะนี้เนื่องจากว่า ลูกค้าส่วนใหญ่เข้ามาทำการรักษาและซื้อประกันส่วนใหญ่ที่ประเทศไทยเป็นหลัก

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเบี้ยประกันรับปีแรก หรือ ANP มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 14% หรือคิดเป็น 532 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 16,556 ล้านบาท ส่วนมูลค่าธุรกิจใหม่ในช่วงปีที่ผ่านมามีการเติบโตเพิ่มขึ้นเช่นกันในสัดส่วน 26% หรือคิดเป็น 287 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทย 8,931 ล้านบาท ขณะเดียวภาษีเงินได้นิติบุคคลเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2555 อยู่ที่ประมาณ 23% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2554 อยู่ที่ 30% ขณะที่ความน่าเชื่อถือ ซึ่งเอไอเอประเทศไทยได้รับการจัดอันดับจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ให้อยู่ในระดับสูงสุดที่ AAA

ส่วนอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลปรับลดลงเหลือ 23% ของกำไรสุทธิสำหรับปีภาษี 2555 และเหลือ 20% สำหรับปีภาษี 2556 และ 2557 ทั้งนี้การคำนวณมูลค่าทางธุรกิจตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไปใช้อัตราภาษี 30%

ขณะที่ส่วนแบ่งทางการตลาดถือว่าปรับตัวลดลงมาอยู่ทึ่ 28% เนื่องจากว่าที่ผ่านมาบริษัทฯ เน้นผลิตภัณฑ์ที่คุ้มครอง และประกันสุขภาพมากกว่าเซฟวิ่ง หรือสะสมทรัพย์ ซึ่งถ้าเปรียบเทียยบกับคู่แข่งจะเห็นว่าจะมีประเภทเซฟวิ่งมากกว่าคุ้มครอง ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าถ้าเป็นประเภทเซฟวิ่งหรือสะสมทรัพย์สจะเน้นไปทางธนาคารมากกว่า

“สาเหตุที่บริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดมาอยู่ที่ 28% เนื่องจากว่าประเทศไทยจะนับรวมผลิตภัณฑ์ที่เป็นระยะสั้นเข้าไปด้วย ซึ่งบริษัทมองว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นระยะสั้นไม่ใช่ประกัน ทำให้ที่ประเทศไทยจะคิดรวมเบี้ยประกันเป็นแบบ FYP หรือถ้าในต่างประเทศจะคิดเป็นแบบ ANP ดังนั้นเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกันกับทั่วโลก ตรงนี้ได้เข้าไปหารือกับทางสมาคมฯ แล้ว กำลังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเป็นการรองรับ AEC ด้วย”

มร.รอน กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจมากว่า 75 ปี จะเห็นได้ว่าเครือข่ายหรือตัวแทนขณะนี้มีกว่า 72,000 รายทั่วประเทศ ซึ่งในปีทีผ่านมาเราหาตัวแทนใหม่เพิ่มขึ้นอีก 20,000 ราย โดยจะมีทั้งระดับตัวแทนที่เป็นพนักงานประจำและไม่ประจำ

นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาเราได้เจาะกลุ่มลูกค่าไปยังกลุ่ม SME ซึ่งในประเทศไทยถือว่ามีการเติบโตเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีช่องทางร่วมกับพันธมิตรในการทำธุรกิจด้วย ทั้งธนาคารขนาดกลางและเล็ก อย่างธนาคารทิสโก้ ธนาคารเกียรตินาคิน และธนาคารซิตี้แบงก์ ขณะเดียวกันในส่วนของไดเรกต์มาร์เกตติ้ง ประกันสินเชื่อ ประกันชีวิตรายสามัญ และธุรกิจประกันกลุ่ม โดยเอไอเอมีส่วนแบ่งการตลาดสูงเป็นอันดับที่ 2 ในช่องทางไดเรกต์มาร์เกตติ้ง และมีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในช่องทางการขายผ่านสื่อ ด้วยนโยบายรัฐบาลในการคืนภาษีสำหรับรถคันแรก ประกอบกับความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเอไอเอกับพันธมิตรธนาคารและบริษัทสินเชื่อ ส่งผลให้ธุรกิจประกันสินเชื่อมีการขยายตัวมาก นอกจากนี้ ธุรกิจประกันกลุ่มมีการเติบโตสูงผ่านช่องทางนายหน้าและตัวแทนฯ ทำให้ธุรกิจประกันกลุ่มของเอไอเอมีส่วนแบ่งเบี้ยประกันภัยรวมสูงเป็นอันดับที่ 2 ของตลาด

“ที่ผ่านมาบริษัทฯ ดำเนินกลยุทธ์พัฒนาตัวแทนระดับพรีเมียร์ (Premier Agency) โดยปรับขั้นตอนการคัดสรรตัวแทนฯ เพื่อยกระดับคุณภาพบุคลากรและพัฒนาการดำเนินงานของตัวแทนฯใหม่ ทั้งนี้ เอไอเอจัดสรรเงินลงทุนในการพัฒนาการฝึกอบรมในปี 2555 ให้มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มผลงานขายและความสามารถในการทำกำไรมากยิ่งขึ้น ส่วนที่เอไอเอเน้นความสำคัญได้แก่ การฝึกอบรมที่มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพของตัวแทนฯในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านความคุ้มครองซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงสัญญาเพิ่มเติมต่างๆ เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจจากสถานะผู้นำตลาดประกันชีวิตและสุขภาพในประเทศไทย”


กำลังโหลดความคิดเห็น