ไทยพาณิชย์ประกันชีวิตโชว์กำไรปี 55 กว่า 3.4 พันล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนหน้าถึง 37% ทำกำไรต่อหุ้นเพิ่มเป็น 51.57 บาท ระบุส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นดันเบี้ยรับรวมขยับขึ้นอันดับ 4 ของอุตสาหกรรม เพร้อมตั้งเป้าปีนี้กวาดเบี้ยรับรวมอีก 5 หมื่นล้านบาท
นายวิพล วรเสาหฤท กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ SCBLIFE เปิดเผยถึงผลประกอบการปี 2555 ว่า บริษัทสามารถสร้างการเติบโตด้านผลการดำเนินงานได้อย่างน่าพอใจ โดยมีกำไรสุทธิ 3,430 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 37% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีกำไร 2,499 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้นเพิ่มเป็น 51.57 บาท เทียบกับ 37.58 บาทในปีก่อน ด้านกำไรสะสมขยับจาก 7,498 ล้านบาทในปีที่แล้วมาอยู่ที่ 8,931 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 19% มีรายได้รวมทั้งสิ้น 45,859 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12,482 ล้านบาท จากปีก่อนซึ่งทำได้ 33,377 ล้านบาท หรือเติบโต 37% แบ่งเป็นเบี้ยประกันรับสุทธิ 41,535 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งทำได้ 29,853 ล้านบาท รายได้จากการลงทุนสุทธิ 4,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 3,381 ล้านบาท
ขณะที่สินทรัพย์รวมขยับขึ้น 28,876 ล้านบาท เป็น 116,281 ล้านบาท หรือเติบโต 33% จากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 87,405 ล้านบาท ส่วนสินทรัพย์ลงทุนขยับจาก 86,176 ล้านบาท เป็น 114,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% โดยสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 80% ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้
นายวิพลกล่าวต่อว่า ผลประกอบการที่โดดเด่นในปี 2555 ตอกย้ำถึงความสำเร็จของการดำเนินกลยุทธ์หลักทางธุรกิจ ได้แก่ 1) การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้า 2) ตอกย้ำความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งอย่างยั่งยืนในช่องทางแบงก์แอสชัวรันส์ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ 3) มุ่งเน้นการวางรากฐานสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพในช่องทางตัวแทน และ 4) นโยบายการลงทุนที่รอบคอบและบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของธุรกิจ
จากสถิติของสมาคมประกันชีวิตไทย ณ เดือนธันวาคม 2555 ผลงานด้านเบี้ยรับรวมของ SCBLIFE ขยับขึ้นสู่อันดับ 4 จากที่เคยอยู่อับดับ 5 ในปี 2554 โดยเติบโตขึ้น 38% ขณะที่ตลาดเติบโต 19% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นจาก 9.2% เป็น 10.7%
สำหรับปี 2556 SCBLIFE ตั้งเป้าเบี้ยรับรวม 50,000 ล้านบาท เติบโต 19% จากปีก่อน โดยจะขับเคลื่อนการเติบโตผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก คือ 1) ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) โดยพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ และบริการที่ครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในแต่ละกลุ่ม 2) บริหารการขายแบบหลากหลายช่องทางการจัดจำหน่าย (Multi Distribution Channels) และ 3) เพิ่มประสิทธิภาพระบบปฏิบัติการสู่ความเป็นเลิศ (Seamless Operations) เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต