xs
xsm
sm
md
lg

สรุปข่าวเด่นกองทุนดัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ข่าวเด่นกองทุนดัง ในสัปดาห์นี้เริ่มต้นกันที่ภาพรวมของเศรษฐกิจต่างประเทศที่น่าสนใจ คงหนีไม่พ้นเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ กับการแก้ปัญหา Fiscal Cliff จะยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งนักลงทุนให้การติดตามกันอย่างใกล้ชิด

มุมมองจากผู้จัดการกองทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล จำกัด ระบุว่า เศรษฐกิจโลกในปีหน้ามีการเติบโตช้า สาเหตุหลักยังคงเป็นที่ยุโรปเข้าสู่ภาวะถดถอย ส่วนสหรัฐอเมริกาเติบโตไม่มากอยู่ที่ 2% หลังจากความล้มเหลวทางการคลัง ซึ่งจะมีติดลบบ้าง ทำให้จีดีพีก็จะปรับลดลง ดังนั้นความเสี่ยงก็ยังมีอยู่ การจัดพอร์ตต้องมีการกระจายการลงทุนไปยังทรัพย์สินอื่นๆ เช่น ทองคำ ที่มองว่า
ทองคำปีหน้ายังคงเป็นขาขึ้น และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถให้ผลตอบแทนที่ดี

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด ก็มองว่า การเจรจาแก้ปัญหา Fiscal Cliff จะยังไม่มีความคืบหน้า แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังมีมุมมองที่ดี และยังมีความหวังที่จะผ่านพ้นภาวะ Fiscal Cliff ไปได้ด้วยดีแต่ยังคงต้องจับตาปัญหานี้อย่างใกล้ชิดต่อไปเพราะเป็นปัจจัยเสี่ยง หากยังยืดเยื้อต่อไปจนใกล้เส้นตายเมื่อไหร่อาจทำให้เกิดความผันผวนขึ้นอีกได้ ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นตามปัจจัยจากฝั่งตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นความหวังเชิงบวกต่อภาวะ Fiscal Cliff  และปัญหาหนี้ยุโรปที่ดูดีขึ้น 

 มากันที่ความเคลื่อนไหวของกองทุนรวมที่น่าสนใจกันครับ .. เริ่มต้นกันที่ บลจ.ไอเอ็นจี จำกัด จะทำการจ่ายเงินปันผล กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลู โฟกัส อีควิตี้ ปันผล (VFOCUS-D) ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตราหน่วยละ 0.365 บาท คิดเป็น 3.65% นับเป็นการจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2555 หลังจากกองทุนมีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม โดยเป็นการจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 8 กันยายนถึง 31 ตุลาคม 2555 บริษัทฯ จะดำเนินการจ่ายปันผลในวันที่ 12 ธันวาคม 2555 โดยก่อนหน้านี้กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลู โฟกัส อีควิตี้ ปันผล ยังได้ประกาศเพิ่มทุนเป็น 5,000 ล้านบาทเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากที่มีผู้ให้ความสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก

บลจ.เอ็มเอฟซี ก็เตรียมจ่ายเงินแก่ผู้ถือหน่วยกองทุนทาร์เกตฟันด์ที่ผลการดำเนินงานเข้าเป้า 2 กองทุนด้วยกัน คือ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 55 (SPOT55) ผลตอบแทนเข้าเป้าที่หนึ่งร้อยละ 5 โดยใช้เวลาบริหารกองทุนเพียงเดือนเศษ และ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สปอท 7 ซีรี่ส์ 5 (SPOT7S5) ผลตอบแทนถึงเป้าที่ร้อยละ 7 ซึ่งก็เป็นผลการดำเนินงานที่มีปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจไทยที่ยังคงแข็งแกร่งจากการลงทุนภาครัฐ และการบริโภคภายในที่ดี และกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าขยายตัวโดดเด่นกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาค

ด้าน บลจ.ไทยพาณิชย์ ก็ออกมาแนะนำจังหวะการลงทุนที่ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศที่ในช่วงสิ้นปีกัน โดยแนะนำ 2 กองทุนต่างประเทศที่น่าสนใจและมองว่าเป็นจังหวะการลงทุนที่ดี คือ กองทุนเปิด ไทยพาณิชย์หุ้นตลาดเกิดใหม่ (SCB Emerging Market Equity Fund : SCBEMEQ) และกองทุนเปิด ไทยพาณิชย์ เอสแอนด์พี 500 (SCB S&P 500 Fund : SCBS&P500) เสนอขายครั้งที่อยู่ในระหว่างการเสนอขายระหว่างวันที่ 3-14 ธันวาคม 2555 นี้

บลจ.ไทยพาณิชย์ นั้นมองว่า กลุ่มประเทศเกิดใหม่มีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มากกว่ากลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว รวมถึงอาจได้ประโยชน์จากค่าเงินที่แข็งค่าขึ้นด้วย และมูลค่า P/E ปัจจุบันของหุ้นตลาดเกิดใหม่อยู่ที่ระดับ 10 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 14 เท่า ถือว่าเป็นระดับที่น่าสนใจเข้าลงทุน
ส่วนการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ นั้น จากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการคลังของสหรัฐฯ (US Fiscal Cliff) เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ดัชนีฯ ปรับฐานในระยะสั้น และอาจเป็นจังหวะในการเข้าลงทุน ด้วยอัตราการขยายตัวที่ดีของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนใน S&P 500 ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าในปี 2556 EPS Growth อยู่ที่ระดับ 14% โดยมีเป้าหมายของดัชนี S&P 500 ที่ระดับ 1,580 จุด ประกอบกับมูลค่าพื้นฐาน P/E ในปัจจุบันที่ระดับ 12.7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ระดับ 16.6 เท่า เป็นปัจจัยสนับสนุนให้นักลงทุนย้ายเงินลงทุนเข้าตลาดหุ้นมากขึ้นอีกด้วย

ขณะที่ บลจ.บัวหลวง ก็มีข่าวที่จะดำเนินการเพิ่มทุน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 2 กองทุนด้วยกัน ได้แก่ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TFUND) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ฟิวเจอร์พาร์ค (FUTUREPF) รวมเป็นเม็ดเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนของทั้ง 2 กองทุนในครั้งนี้ประมาณ 2,475 ล้านบาท

ทางบริษัทก็จะเปิดรับจองซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มทุนของ กองทุน FUTUREPF จำนวน 56.25 ล้านหน่วย ในราคาเสนอขายหน่วยละ 16.00 บาท ระหว่างวันที่ 11-14 ธันวาคมนี้ โดยให้สิทธิ และเสนอขายเฉพาะผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนในวันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 โดยอัตราส่วนการใช้สิทธิจองซื้อเท่ากับ 1 หน่วยลงทุนเดิมต่อ 0.1188
หน่วยลงทุนใหม่

ส่วน กองทุน TFUND จะเปิดขายจำนวน 150.72 ล้านหน่วย ในราคา 10.45 บาท ระหว่างวันที่ 12-17 ธันวาคมนี้ โดยให้สิทธิ และเสนอขายเฉพาะผู้ถือหน่วยลงทุนเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหน่วยลงทุนในวันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 โดยอัตราส่วนการใช้สิทธิจองซื้อเท่ากับ 1 หน่วยลงทุนเดิมต่อ 0.1509 หน่วยลงทุนใหม่


กำลังโหลดความคิดเห็น