General News
• อัตราเงินเฟ้อเป็นรายปีของเยอรมนีอยู่ที่ 1.9% ในเดือน พ.ย. ชะลอตัวลงจาก 2.0% ในเดือน ต.ค. เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลงสามารถชดเชยราคาอาหารที่สูงขึ้นได้ และด้วยแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ไม่รุนแรงโดยยังอยู่ต่ำกว่าเป้าอัตราเงินเฟ้อที่ 2.0% อาจทำให้นโยบายอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีความต่อเนื่องยาวนานมากขึ้น
• ยอดค้าปลีกของสเปนในเดือน ต.ค. ปรับตัวลงต่อเนื่อง 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวลง 11.5% และฟื้นขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ก.ย.ที่ยอดค้าปลีกหดตัวแรงถึง 11% แสดงถึงเศรษฐกิจสเปนที่ยังคงย่ำแย่แม้ว่าอัตราการหดตัวจะชะลอลง ด้านองค์การความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ได้คาดการณ์ว่าจีดีพีของสเปนจะหดตัวลง 1.3% ในปี 55 และลดลงอีก 1.4% ในปี 56
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ อยู่ที่ 73.7 จุด ในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 72.2 จุดในเดือนก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องจากประชาชนอเมริกันมีมุมมองที่เป็นบวกเพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มในอนาคตของตลาดแรงงาน
• ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ ลดลง 0.3% ในเดือน ต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 368,000 ยูนิต ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะหดตัวลง 0.8% และเพิ่มขึ้นมากกว่า 17% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ S&P’s/Case-Shiller ได้รายงานดัชนีราคาบ้านในสหรัฐฯ สำหรับเดือนก.ย.ที่ปรับเพิ่มขึ้น 3.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ นั้นเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รายงานยอดสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารกลางในช่วงสิ้นสุดเดือนกันยายนอยู่ที่ 149.9 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 8.9% จากปีก่อน และเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และในช่วงระหว่างเดือน เม.ย.ถึง ก.ย. BOJ มียอดขาดทุนสุทธิ 2.33 แสนล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับช่วงครึ่งปีงบประมาณแรก ส่วนใหญ่เป็นเพราะการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนที่แข็งค่า และมูลค่าสินทรัพย์ลดลง
• เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัว 7.1% ในไตรมาส 3/55 เป็นผลมาจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้จากการส่งออกที่สูงขึ้น และในช่วง 9 เดือนแรกของปีเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ขยายตัวขึ้น 6.5% ซึ่งดีกว่าตัวเลขเป้าหมายของทั้งปีที่ 6%
• สหพันธ์อุตสาหกรรมเกาหลีใต้ (FKI) รายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (BSI) ในเดือน ธ.ค.อยู่ที่ระดับ 82 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 52 และปรับตัวลดลงจากระดับ 92.5 จุดในเดือน พ.ย.เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 100 แสดงว่าบริษัทที่มีมุมมองเป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าบริษัทที่มีมุมมองเป็นบวก จากกลุ่มสำรวจที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า 600 แห่ง
• การประชุม กนง.ครั้งสุดท้ายของปี 55 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% เนื่องจากปัจจัยด้านความต้องการสินค้าและการลงทุนในประเทศนั้นยังขยายตัวได้ดี อีกทั้งแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกนั้นมีสัญญาณการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนที่ออกมาดีกว่าที่คาดเป็นผลให้ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลดลง ในขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อนั้นยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่ง กนง.ได้ชี้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไตรมาส 3 และเดือน ต.ค.นั้นมีแนวโน้มดีกว่าที่ประเมินไว้แต่ยังไม่มีการประกาศปรับเพิ่มการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,299.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.91 จุด หรือ +0.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31,073 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 84 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยสามารถปิดบวกได้ท่ามกลางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่แม้ว่าจะไม่ได้มีประเด็นด้านลบต่อตลาด จึงน่าจะเป็นการขายทำกำไรของนักลงทุนหลังจากที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นตลอดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หุ้นไทยกลุ่มที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ (Big cap) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เป็นส่วนใหญ่
• Warren Buffett ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเชื่อว่าในที่สุดปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) จะผ่านพ้นไปได้ แต่อาจจะไม่ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นจุดสิ้นสุดของโลก (The End of The world) แต่อย่างใดถ้าการเจรจาไม่เสร็จสิ้นภายในปลายปีนี้ ซึ่งปัญหา Fiscal Cliff นี้ไม่ได้มีผลต่อมุมมองการลงทุนของเขาเลย และเขายังคงเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะยาว
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ โดยรุ่นที่มีอายุคงเหลือระหว่าง 8 ถึง 40 ปีมีอัตราผลตอบแทนลดลงในช่วงระหว่าง -0.03% ถึง 0.00% ส่วนรุ่นอื่นๆ มีอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
• อัตราเงินเฟ้อเป็นรายปีของเยอรมนีอยู่ที่ 1.9% ในเดือน พ.ย. ชะลอตัวลงจาก 2.0% ในเดือน ต.ค. เนื่องจากราคาพลังงานที่ลดลงสามารถชดเชยราคาอาหารที่สูงขึ้นได้ และด้วยแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ไม่รุนแรงโดยยังอยู่ต่ำกว่าเป้าอัตราเงินเฟ้อที่ 2.0% อาจทำให้นโยบายอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีความต่อเนื่องยาวนานมากขึ้น
• ยอดค้าปลีกของสเปนในเดือน ต.ค. ปรับตัวลงต่อเนื่อง 9.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดว่าจะหดตัวลง 11.5% และฟื้นขึ้นเล็กน้อยจากเดือน ก.ย.ที่ยอดค้าปลีกหดตัวแรงถึง 11% แสดงถึงเศรษฐกิจสเปนที่ยังคงย่ำแย่แม้ว่าอัตราการหดตัวจะชะลอลง ด้านองค์การความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) ได้คาดการณ์ว่าจีดีพีของสเปนจะหดตัวลง 1.3% ในปี 55 และลดลงอีก 1.4% ในปี 56
• ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ อยู่ที่ 73.7 จุด ในเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 72.2 จุดในเดือนก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี เนื่องจากประชาชนอเมริกันมีมุมมองที่เป็นบวกเพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มในอนาคตของตลาดแรงงาน
• ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐฯ ลดลง 0.3% ในเดือน ต.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 368,000 ยูนิต ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดว่ายอดขายบ้านใหม่จะหดตัวลง 0.8% และเพิ่มขึ้นมากกว่า 17% เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ก่อนหน้านี้ S&P’s/Case-Shiller ได้รายงานดัชนีราคาบ้านในสหรัฐฯ สำหรับเดือนก.ย.ที่ปรับเพิ่มขึ้น 3.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นสัญญาณว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยในสหรัฐฯ นั้นเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
• ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รายงานยอดสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคารกลางในช่วงสิ้นสุดเดือนกันยายนอยู่ที่ 149.9 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 8.9% จากปีก่อน และเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน และในช่วงระหว่างเดือน เม.ย.ถึง ก.ย. BOJ มียอดขาดทุนสุทธิ 2.33 แสนล้านเยน สูงสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับช่วงครึ่งปีงบประมาณแรก ส่วนใหญ่เป็นเพราะการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนที่แข็งค่า และมูลค่าสินทรัพย์ลดลง
• เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัว 7.1% ในไตรมาส 3/55 เป็นผลมาจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในภาคบริการและรายได้จากการส่งออกที่สูงขึ้น และในช่วง 9 เดือนแรกของปีเศรษฐกิจของฟิลิปปินส์ขยายตัวขึ้น 6.5% ซึ่งดีกว่าตัวเลขเป้าหมายของทั้งปีที่ 6%
• สหพันธ์อุตสาหกรรมเกาหลีใต้ (FKI) รายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (BSI) ในเดือน ธ.ค.อยู่ที่ระดับ 82 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 52 และปรับตัวลดลงจากระดับ 92.5 จุดในเดือน พ.ย.เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศ ทั้งนี้ ดัชนีที่ระดับต่ำกว่า 100 แสดงว่าบริษัทที่มีมุมมองเป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมีจำนวนมากกว่าบริษัทที่มีมุมมองเป็นบวก จากกลุ่มสำรวจที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า 600 แห่ง
• การประชุม กนง.ครั้งสุดท้ายของปี 55 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.75% เนื่องจากปัจจัยด้านความต้องการสินค้าและการลงทุนในประเทศนั้นยังขยายตัวได้ดี อีกทั้งแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกนั้นมีสัญญาณการปรับตัวที่ดีขึ้น โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ และจีนที่ออกมาดีกว่าที่คาดเป็นผลให้ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยลดลง ในขณะที่แรงกดดันเงินเฟ้อนั้นยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่ง กนง.ได้ชี้ว่าตัวเลขเศรษฐกิจของไตรมาส 3 และเดือน ต.ค.นั้นมีแนวโน้มดีกว่าที่ประเมินไว้แต่ยังไม่มีการประกาศปรับเพิ่มการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจ
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,299.94 จุด เพิ่มขึ้น 2.91 จุด หรือ +0.22% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 31,073 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 84 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นไทยสามารถปิดบวกได้ท่ามกลางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่แม้ว่าจะไม่ได้มีประเด็นด้านลบต่อตลาด จึงน่าจะเป็นการขายทำกำไรของนักลงทุนหลังจากที่ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นตลอดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หุ้นไทยกลุ่มที่มีมูลค่าตลาดขนาดใหญ่ (Big cap) ยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เป็นส่วนใหญ่
• Warren Buffett ให้สัมภาษณ์ว่า เขาเชื่อว่าในที่สุดปัญหาหน้าผาการคลังของสหรัฐฯ (Fiscal Cliff) จะผ่านพ้นไปได้ แต่อาจจะไม่ทันภายในวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งเขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นจุดสิ้นสุดของโลก (The End of The world) แต่อย่างใดถ้าการเจรจาไม่เสร็จสิ้นภายในปลายปีนี้ ซึ่งปัญหา Fiscal Cliff นี้ไม่ได้มีผลต่อมุมมองการลงทุนของเขาเลย และเขายังคงเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะยาว
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ โดยรุ่นที่มีอายุคงเหลือระหว่าง 8 ถึง 40 ปีมีอัตราผลตอบแทนลดลงในช่วงระหว่าง -0.03% ถึง 0.00% ส่วนรุ่นอื่นๆ มีอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย