โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง
• รมว.คลังยูโรโซนมีประชุมในวันจันทร์นี้ที่กรุงบรัสเซลส์ โดยประเด็นสำคัญในการประชุมจะเป็นเรื่องการอนุมัติเงินกู้แก่กรีซอีกครั้ง หลังจากที่ระงับการปล่อยกู้ให้แก่กรีซในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลกรีซไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณและมาตรการปฏิรูปตามที่ได้ให้สัญญาไว้ อย่างไรก็ดี ยูโรกรุ๊ปยังไม่อยู่ในสถานะที่จะตัดสินใจขั้นสุดท้ายในเรื่องนี้
• จอร์จ เอ็นทวิสเทิล ผอ.สถานีโทรทัศน์ BBC แห่งอังกฤษ ประกาศลาออกจากตำแหน่งหลังเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 2 เดือน เพื่อแสดงความรับผิดชอบกรณีนำเสนอข่าวผิดพลาด โดยไปกล่าวหานักการเมืองชื่อดังรายหนึ่งว่าล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายเมื่อหลายสิบปีก่อน
• GDP ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.9% จากไตรมาสก่อน ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส และเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บ่งชี้ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและความขัดแย้งระหว่างญี่ปุ่นกับจีนกำลังกดดันเศรษฐกิจญี่ปุ่นให้เข้าสู่ภาวะถดถอย
• ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายการเงินอย่างจริงจังจนกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะปรับตัวสูงขึ้น 1% และเตือนว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นยังมีแรงกดดันของความเสี่ยงช่วงขาลงจากปัจจัยต่างๆ อาทิ สถานการณ์ความไม่แน่นอนเรื่องหนี้ยุโรป และความเป็นไปได้ของการชะลอตัวที่ยืดเยื้อของเศรษฐกิจจีน
• ธนาคารกลางจีน และธนาคารกลางออสเตรเลียกำลังพิจารณาเปิดการซื้อขายเงินหยวนและดอลลาร์ออสเตรเลียโดยตรง ซึ่งหากเป็นผลจะทำให้ดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นสกุลเงินสำคัญอันดับ 3 ที่ได้รับอนุญาตให้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนกับเงินหยวนโดยตรง ตามหลังดอลลาร์สหรัฐ และเงินเยนของญี่ปุ่น
• ผลผลิตอุตสาหกรรมของอินเดียในเดือน ก.ย.ลดลง 0.4% จากปีก่อน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือน ส.ค. โดยเกือบตลอดปีนี้ภาคการผลิตของอินเดียได้หดตัวลงจากผลกระทบด้านความต้องการของผู้บริโภคที่อ่อนแอ รวมทั้งการส่งออกที่ร่วงลง ซึ่งธนาคารกลางอินเดียได้ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในไตรมาสแรกของปีหน้าเพื่อสนับสนุนการขยายตัวหลังจากที่เงินเฟ้อชะลอตัว
• นักกลยุทธ์ตลาดทุนของ UOB Investment ให้ความเห็นว่า หากสหรัฐฯ ไม่สามารถจัดการแก้ปัญหาการขาดดุลงบประมาณได้ จะทำให้เงินทุนจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไหลออก เนื่องจากความต้องการลงทุนในหุ้นและพันธบัตรของนักลงทุนจะลดลง
• ประธานกรรมการบริหาร ธ.ไทยพาณิชย์เชื่อว่า หลังการเปิดเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) จะเป็นโอกาสให้ธุรกิจไทยทำการค้าและการลงทุนได้กว้างขึ้น แต่ต้องระวังเม็ดเงินไหลเข้าจาก QE3 เพราะอาจมีผลต่อตลาดเงิน ตลาดทุน และอัตราแลกเปลี่ยนของไทยได้
• ราคาอาหารปรุงสำเร็จในเขต กทม.และปริมณฑลส่วนใหญ่ปรับขึ้นจานละ 5-15 บาท ซึ่งร้านค้าให้เหตุผลว่าขึ้นราคาให้สอดคล้องกับค่าครองชีพทั่วไปที่แพงขึ้น เช่นค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าเดินทาง น้ำยาล้างจาน รวมถึงค่าเช่าสถานที่ ไม่ได้เป็นเพราะวัตถุดิบและเครื่องประกอบอาหารแพงขึ้น เพราะราคาเนื้อหมู ไข่ไก่ เนื้อไก่ ยังทรงตัวในระดับต่ำ
Equity Market
• SET Index ปิดที่ 1,294.50 จุด เพิ่มขึ้น 3.67 จุด หรือ 0.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 27,952 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 684 ล้านบาท โดยตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่รอดูเรื่องกรณี fiscal cliff ของสหรัฐฯ หรือภาวะที่มาตรการปรับขึ้นภาษีและปรับลดงบรายจ่ายวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ อาจเริ่มมีผลบังคับใช้ในต้นปีหน้า โดยสภาคองเกรสจะเปิดสมัยประชุมสภาในวันอังคารนี้ รวมถึงรอดูปัญหาหนี้ของกรีซ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศทางด้านผลประกอบการไตรมาส 3/55 ที่ออกมาส่วนใหญ่ไม่ได้พลิกความคาดหมาย
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นทรงตัว ขณะที่ช่วงอายุคงเหลืออื่นๆ ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่าง +0.01% ถึง +0.04% โดยในช่วงอายุคงเหลือ 9 และ 10 ปีปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุดที่ 0.04% สำหรับวันอังคารนี้มีการประมูลพันธบัตร ธปท. 4 รุ่น ได้แก่ อายุ 1 / 3 / 6 เดือน และ 4 ปี รวมวงเงินทั้งสิ้น 103,000 ล้านบาท
• กระทรวงการคลังจะเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์ ครั้งที่ 1 ปีงบประมาณ 2556 อายุ 3 ปี วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 3.75% แก่ผู้ลงทุนรายย่อยและประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 22 พ.ย. 55 ถึง 5 เม.ย. 56 โดยจะขายผ่านเคาน์เตอร์ และเครื่องเอทีเอ็มของธนาคารตัวแทนจำหน่าย 4 แห่ง ได้แก่ 1) ธ.กรุงเทพ ยกเว้นสาขาไมโคร 2) ธ.กรุงไทย 3) ธ.กสิกรไทย และ 4) ธ.ไทยพาณิชย์