ฟินันซ่าแนะจัดพอร์ตลุยหุ้นเอเชีย มั่นใจภาคการบริโภคยังเติบโตสูง

ฟินันซ่าชี้เอเชียยังสดใส เศรษฐกิจเติบโตสูง แนะลงทุน “กองทุนเปิด ฟินันซ่า เอเชี่ยน คอนซัมชั่น” ผลงานตั้งแต่ต้นปีโต 14% มั่นใจภาคการบริโภคเอเชียเติบโตได้อีกมากแม้ราคาหุ้นตอนนี้อาจสูง

นายสุรสีห์ จงไชโย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ฟินันซ่า จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนในตลาดโลกยังคงมีความผันผวนค่อนข้างมาก ตัวเลขเศรษฐกิจในหลายๆ ด้านยังสะท้อนถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกที่เติบโตอย่างเปราะบาง โดยเฉพาะเศรษฐกิจยุโรปที่ยังคงประสบกับภาวะการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่คาดว่ากินระยะเวลานาน

ขณะที่สหรัฐฯ แม้ตัวเลขคนว่างงานจะเริ่มลดระดับลง และการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE3) ออกมา แต่ความเสี่ยงหลักในช่วงที่เหลือของปี 2555 ไปจนถึงปี 2556 ยังคงต้องประเมินถึงผลกระทบจากการที่มาตรการทางด้านการคลังของสหรัฐฯ จะเริ่มทยอยหมดอายุลงในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งจะฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะมีแนวโน้มกลับมาปรับตัวลดลงได้

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจในเอเชีย ภาคการส่งออกที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจในหลายๆ ประเทศของเอเชียได้รับผลกระทบ แต่อย่างไรก็ตาม เอเชียยังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะในภาคการบริโภคที่มองว่าจะมีการขยายตัวได้อย่างโดดเด่น โดยรวมจะส่งผลบวกต่อภาคเศรษฐกิจในประเทศโดยตรง

“ในระยะยาวแล้วเอเชียยังมีการเติบโตที่ยั่งยืน แม้ราคาหุ้นอาจจะสูง แต่แนวโน้มการเติบโตของเอเชียยังมีอยู่สูงมากจากการบริโภคและประชากรที่มาก”

ทั้งนี้ ฟินันซ่าจึงแนะนำให้แบ่งเงินลงทุนมาลงทุนในเอเชียที่มีการบริโภคที่สูง โดยกองทุนเปิดฟินันซ่า เอเชี่ยน คอนซัมชั่น (FAM ACF) เป็นกองทุนรวมที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนที่ดีจากการกระจายการลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่หรือดำเนินธุรกิจหลักในภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) อันเป็นธุรกิจการขายสินค้าหรือให้บริการแก่ผู้บริโภคในเอเชีย โดยมีกองทุนหลักคือ UBS (Lux) Equity Fund-Asian Consumption (USD) ซึ่งผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปี ณ วันที่ 28 กันยายน 2555 อยู่ที่ 14.62% ชนะเกณฑ์มาตรฐาน 6.08%

“การบริโภคเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดเกิดใหม่ ด้วยประชากรที่มีอายุเฉลี่ยน้อยเมื่อเทียบกับประเทศในแถบยุโรปหรืออเมริกา การเปลี่ยนแปลงจากสังคมชนบทสู่สังคมเมือง ทำให้มีอัตราการจ้างงานและรายได้ต่อครัวเรือนสูงขึ้น ทำให้มีการใช้จ่ายเพื่อความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประชากรในประเทศแถบเอเชียเหล่านี้มีการออมในระดับสูง โดยที่ระดับหนี้สินภาคครัวเรือนอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศที่เจริญแล้ว เช่น อเมริกา หรือยุโรป เป็นต้น”