บลจ.อเบอร์ดีนชี้นักลงทุนทั่วโลกยังสนใจบอนด์รวมทั้งบอนด์ยุโรปบางประเทศ คาดไทยคงดอกเบี้ยที่ 3.0 ถึงสิ้นปี พร้อมระบุสหรัฐฯ อาจไม่ออกมาตรการ QE3 เพราะปัจจุบันยังไม่เห็นสัญญาณ ศก.รุนแรง
นายพงค์ธาริน ทรัพยานนท์ หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เปิดเผยว่า ตราสารหนี้ยังเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจในปัจจุบัน แม้แต่ตราสารหนี้ในยุโรปเองก็มีโอกาสการลงทุนเช่นกันเพียงแต่ต้องเลือกประเทศที่จะเข้าไปลงทุนเพราะในแง่ของผลตอบแทนและความเสี่ยงนั้นก็ไม่ได้แย่เหมือนกันทุกประเทศ ในส่วนของแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย (R/P 1 วัน) ของไทยเองนั้นบริษัทประเมินว่าน่าจะทรงตัวในระดับ 3.0% ไปจนถึงสิ้นปี 55 นี้ และบริษัทมองว่ามีโอกาสน้อยที่สหรัฐฯ จะมีมาตรการกระตุ้นผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE3) ออกมาเพราะว่ามีความจำเป็นไม่มากนัก ซึ่งเศรษฐกิจสหรัฐฯ เองอาจจะโตได้ไม่มากแต่ก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวไปได้
ส่วนผลกระทบจากมาตรการลดหย่อนภาษีที่จะหมดลงในช่วงสิ้นปี 55 นั้น แม้จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มีผลมากมายอย่างที่หลายฝ่ายเป็นกังวลไป แค่อาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ เติบโตน้อยลงในลักษณะนั้นมากกว่า หากจะใช้ QE3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจแสดงว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะต้องมีอาการไม่ดีจริงๆ ซึ่งด้วยข้อมูลในปัจจุบันยังไม่เห็นสัญญาณรุนแรงขนาดนั้นแต่ประการใด
ทั้งนี้ บริษัทคงเน้นทำธุรกิจที่ตัวเองถนัดเป็นหลัก ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ก็จะเป็นกองทุนเปิดไม่ใช่กองทุนที่เป็นเทอมฟันด์ (Term Fund) เช่นที่ บลจ.ลูกแบงก์ขายกัน ซึ่งหากความเข้าใจของนักลงทุนมีมากขึ้นกองทุนตราสารหนี้ของบริษัทก็มีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นได้เช่นกัน
นอกจากหุ้นและตราสารหนี้แล้ว อเบอร์ดีนยังมีความถนัดเป็นพิเศษในเรื่องของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เพียงแต่ไม่ใช่เป็นลักษณะของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ (กอง1) ที่มีในไทยเท่านั้นเอง ทำให้บริษัทยังไม่ได้เข้ามาจับตลาดกองทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยและกำลังรอดูกฎเกณฑ์ใหม่ของกองทรัสต์เพื่อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ว่าจะออกมาเป็นอย่างไรด้วยเช่นกัน
โดยกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของอเบอร์ดีนที่ต่างประเทศทำนั้นเหมือนกับกองทุนหุ้น คือ ผู้จัดการกองทุนระดมทุนแล้วเข้าไปคัดเลือกอสังหาริมทรัพย์เพื่อลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่กองทุน ต้องไปเยี่ยมเยียนกิจการ (Company Visit) เช่นเดียวกับลงทุนในตราสารหนี้หรือในหุ้น ซึ่งโมเดลนี้ไม่เหมือนกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของไทยในปัจจุบัน
“กองทุนอสังหาริมทรัพย์ในไทยผู้จัดการกองทุนไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่กองทุนแต่ประการใด แต่ในอนาคตเกณฑ์ REIT ที่จะมาแทนกอง 1 น่าจะทำให้มีความเป็นสากลมากขึ้น ตรงนั้นคงต้องดูอีกครั้งว่าจะเป็นโมเดลการทำกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่สอดคล้องกับความถนัดของบริษัทด้วยหรือไม่เช่นกัน ในปีหน้าคงจะมีกองทุนใหม่ๆ มานำเสนอเพิ่มเติมมากขึ้น เพราะกองทุนของอเบอร์ดีนเองมีเป็นจำนวนมาก แต่คงต้องทยอยเลือกนำมาเสนอนักลงทุนไทยเท่านั้นเอง” นายพงค์ธารินกล่าว
