ความกังวลต่อวิกฤตยุโรปที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจการลงทุนในตลาดโลกที่ผันผวนอย่างมากในปัจจุบัน ทำให้ผู้ลงทุนไทยจำนวนไม่น้อยเกิดความกังวลและไม่มั่นใจที่จะลงทุนและต้องการแสวงหารูปแบบการลงทุนที่มีความปลอดภัยสูงมากและให้ผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล เพื่อเตรียมไว้พักเงิน กระจายการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง เป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้กับพอร์ตการลงทุน และใช้บริหารสภาพคล่อง
ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บลจ.บัวหลวง จึงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-Treasury) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยสูงมากจากการลงทุน แต่ยังคงมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ และเพื่อใช้บริหารสภาพคล่องในระยะสั้นๆ หรือเป็นที่เก็บออมเงินสำรองยามฉุกเฉิน เพิ่มเติมจากกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวีที่มีอยู่เดิม
กองทุน B-TREASURY จัดตั้งเป็น กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ (Money Market Fund) มีความเสี่ยงที่ระดับ 1 หรือมีระดับความเสี่ยงต่ำที่สุด สามารถลงทุนได้ทุกคน ทุกองค์กร โดยผู้จัดการกองทุนจะเลือกลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทยเป็นหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน (เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำของประกัน) และพอร์ตการลงทุนของกองทุนจะมีอายุถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก (Portfolio duration) ของตราสารที่กองทุนลงทุน ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าการลงทุนในกองทุนนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนต่อหน่วย (NAV) จะมีโอกาสผันผวนต่ำมาก
B-TREASURY เหมาะสมกับผู้ต้องการลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ไม่เคยลงทุนมาก่อน ต้องการค่อยๆ เริ่มต้นในสิ่งที่เชื่อมั่นได้ว่าน่าจะปลอดภัยต่อการลงทุน เพราะเน้นหนักที่การลงทุนตราสารภาครัฐไทยที่มีสภาพคล่องสูง มีความผันผวนของราคาต่ำ หรือต้องการใช้เป็นที่พักเงินสำรองยามฉุกเฉินที่มีระดับความเสี่ยงต่ำมาก หรือสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ต้องการลงทุนในตราสารภาครัฐไทย เพื่อความปลอดภัยของเงินออมวัยเกษียณ เป็นต้น
นอกจากนี้ B-TREASURY ยังเหมาะกับนักลงทุนบุคคล นิติบุคคล องค์กร ที่มีนโยบายชัดเจนว่าไม่ต้องการลงทุนในหุ้นกู้บริษัทเอกชน แม้ว่าหุ้นกู้บริษัทเอกชนที่กองทุนอื่นๆ ของ บลจ.บัวหลวง เลือกลงทุนนั้นจะได้รับการจัดอันดับเรทติ้งในอันดับดีเยี่ยมเพียงใดก็ตาม
ด้วยเป้าหมายที่จะพยายามแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด (Benchmark) ของกองทุน B-TREASURY จึงประกอบด้วย อัตราผลตอบแทนของการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล (Zero Rate Return (ZRR) อายุ 1 เดือน ร้อยละ 80 และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของเงินฝากประจำ 3 เดือน ของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ร้อยละ 20 เพื่อให้การเทียบเคียงผลงานของกองทุนมีความเหมาะสมในการพิจารณาลงทุน
กองทุน B-TREASURY ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน เพราะมีความเสี่ยงระดับต่ำที่สุด และให้ผลตอบแทนเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ถือเป็นการเรียนรู้เบื้องต้น ก่อนนักลงทุนจะก้าวเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือกองทุนที่เสี่ยงมากขึ้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็น ผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในตราสารความเสี่ยงต่ำที่สุด และแม้กระทั่งผู้ที่ใกล้เกษียณหรืออยู่ในวัยเกษียณแล้ว
B-TREASURY เสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 1 - 8 สิงหาคม 2555 ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน และมูลค่าขั้นต่ำในการจองซื้อ 1,000 บาท สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ บลจ.บัวหลวง โทร. 0-2674-6488 กด 8
ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น บลจ.บัวหลวง จึงได้จัดตั้ง กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารหนี้ภาครัฐ (B-Treasury) เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยสูงมากจากการลงทุน แต่ยังคงมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ และเพื่อใช้บริหารสภาพคล่องในระยะสั้นๆ หรือเป็นที่เก็บออมเงินสำรองยามฉุกเฉิน เพิ่มเติมจากกองทุนเปิดบัวหลวงธนทวีที่มีอยู่เดิม
กองทุน B-TREASURY จัดตั้งเป็น กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ (Money Market Fund) มีความเสี่ยงที่ระดับ 1 หรือมีระดับความเสี่ยงต่ำที่สุด สามารถลงทุนได้ทุกคน ทุกองค์กร โดยผู้จัดการกองทุนจะเลือกลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐไทยเป็นหลักโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน (เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำของประกัน) และพอร์ตการลงทุนของกองทุนจะมีอายุถัวเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก (Portfolio duration) ของตราสารที่กองทุนลงทุน ณ ขณะใดขณะหนึ่ง ไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น ยิ่งทำให้มั่นใจได้ว่าการลงทุนในกองทุนนี้ มูลค่าหน่วยลงทุนต่อหน่วย (NAV) จะมีโอกาสผันผวนต่ำมาก
B-TREASURY เหมาะสมกับผู้ต้องการลงทุนในกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุด ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น ไม่เคยลงทุนมาก่อน ต้องการค่อยๆ เริ่มต้นในสิ่งที่เชื่อมั่นได้ว่าน่าจะปลอดภัยต่อการลงทุน เพราะเน้นหนักที่การลงทุนตราสารภาครัฐไทยที่มีสภาพคล่องสูง มีความผันผวนของราคาต่ำ หรือต้องการใช้เป็นที่พักเงินสำรองยามฉุกเฉินที่มีระดับความเสี่ยงต่ำมาก หรือสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ต้องการลงทุนในตราสารภาครัฐไทย เพื่อความปลอดภัยของเงินออมวัยเกษียณ เป็นต้น
นอกจากนี้ B-TREASURY ยังเหมาะกับนักลงทุนบุคคล นิติบุคคล องค์กร ที่มีนโยบายชัดเจนว่าไม่ต้องการลงทุนในหุ้นกู้บริษัทเอกชน แม้ว่าหุ้นกู้บริษัทเอกชนที่กองทุนอื่นๆ ของ บลจ.บัวหลวง เลือกลงทุนนั้นจะได้รับการจัดอันดับเรทติ้งในอันดับดีเยี่ยมเพียงใดก็ตาม
ด้วยเป้าหมายที่จะพยายามแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากออมทรัพย์ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด (Benchmark) ของกองทุน B-TREASURY จึงประกอบด้วย อัตราผลตอบแทนของการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล (Zero Rate Return (ZRR) อายุ 1 เดือน ร้อยละ 80 และอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของเงินฝากประจำ 3 เดือน ของ 3 ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ร้อยละ 20 เพื่อให้การเทียบเคียงผลงานของกองทุนมีความเหมาะสมในการพิจารณาลงทุน
กองทุน B-TREASURY ถือเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักลงทุนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน เพราะมีความเสี่ยงระดับต่ำที่สุด และให้ผลตอบแทนเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ถือเป็นการเรียนรู้เบื้องต้น ก่อนนักลงทุนจะก้าวเข้าไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือกองทุนที่เสี่ยงมากขึ้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็น ผู้ลงทุนทั่วไปที่ต้องการลงทุนในตราสารความเสี่ยงต่ำที่สุด และแม้กระทั่งผู้ที่ใกล้เกษียณหรืออยู่ในวัยเกษียณแล้ว
B-TREASURY เสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 1 - 8 สิงหาคม 2555 ราคาเสนอขาย 10 บาทต่อหน่วยลงทุน และมูลค่าขั้นต่ำในการจองซื้อ 1,000 บาท สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บัวหลวงโฟน โทร. 1333 หรือ บลจ.บัวหลวง โทร. 0-2674-6488 กด 8