อุตสาหกรรมกองทุนอู้ฟู่! ครึ่งปีกวาดเงินเข้าพอร์ตกว่า 2.5 แสนล้านบาท ดันยอดสินทรัพย์รวมทั้งระบบใกล้แตะ 2.4 ล้านล้านบาท บลจ.กสิกรไทยรั้งแชมป์สินทรัพย์รวมสูงสุด นายกสมาคมบลจ.คาดครึ่งปีหลังยังโตต่อเนื่อง แม้พรบ.คุ้มครองเงินฝากจะเลื่อนออกไปก็ตาม แต่การใช้กองทุนรวมยังเพิ่มขึ้นและกระแสเงินลงทุนในโลกที่ไหลเข้าเอเชียช่วยหนุน
นาย สมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวถึง ภาพรวมของอุตสาหกรรมกองทุนรวมว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอุตสากรรมกองทุนรวมมีการเติบโตขึ้นโดยปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 2.4 ล้านล้านบาท โดยร้อยละ 90 เป็นการเติบโตที่มากจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งซึ่งแม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่ต่ำแต่ผลตอบแทนยังไม่มากนัก ขณะเดียวกันยังขาดการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่นๆ เช่น หุ้น ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ กองทุนผสม รวมถึง กองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษี LTF & RMF ทำให้ขาดการกระจายการลงทุนที่ดี
อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมยังมีการเติบโตและมีแนวโน้มที่การใช้กองทุนเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับในประเทศสหรัฐฯ ที่ประชาชนใช้กองทุนรวมในการลงทุน
ทั้งนี้มองว่า อุตสาหกรรมกองทุนรวมในช่วงครึ่งปีหลังจะยังมีการเติบโตต่อเนื่องทั้งปีในระดับประมาณ 10% แม้ว่าในเรื่องการประกันเงินฝากของธนาคารพาณิชย์จะเลื่อนออกไป แต่จะยังเชื่อว่ากองทุนรวมจะยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังกระแสเงินลงทุนจะไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย มากขึ้นเพราะมีการเติบโตที่ดี ขณะที่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วยังมีความอ่อนแอทางเศรษฐกิจซึ่งต้องใช้เวลาในการเยี่ยวยาต่อไป
ขณะเดียวกันมองว่า ปัจจัยเศรษฐกิจในต่างประเทศนั้น ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งแม้ว่าจะมีการเติบโตที่ดี แต่เมื่อมองให้ลึก อาเซียนยังเป็นผู้ผลิตให้กับประเทศในตะวันตกอยู่และส่งต่อไปยังตลาดใหญ่ในจีนอีกที อย่างไรก็ตามบริษัทจดทะเบียนในไทยยังมีการเติบโตที่ดี และจะสามารถปรับตัวกับปัญหาและสามารถำเติบโตต่อไปได้
"เทรนของการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เชื่อว่ากระแสเงินในระบบเศรษฐกิจโลก จะไหลเข้าไปสู่ภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจไปอีกระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจมีการเติบโต รวมถึงราคาสินทรัพย์" นาย สมจินต์ กล่าว
**กองทุนรวม6เดือนโตกว่า2.5แสนล้าน**
รายงานจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า สินทรัพย์รวมของอุตสาหกรรมกองทุนรวม ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2555 เติบโตขึ้นจากช่วงต้นปีประมาณ 12.30% โดยมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 2.56 แสนล้านบาทมาอยู่ที่ ประมาณ 2.312 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.082 ล้านล้านบาท
สำหรับบรริษัทจัดการกองทุน(บลจ.) ที่มีส่่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด 5 อันดับประกอบด้วย 1.บลจ.กสิกรไทย 25% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 5.88 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 10.75% 2.บลจ.ไทยพาณิชย์ 22.71% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 5.31 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 9.98% 3.บลจ.กรุงไทย 13.17% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 3.07 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 17.23%
4.บลจ.บัวหลวง 7.49% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1.75 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 21.05% 5.บลจ.เอ็มเอฟซี 6.78% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1.58 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 2.28%
นาย สมจินต์ ศรไพศาล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวถึง ภาพรวมของอุตสาหกรรมกองทุนรวมว่าตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาอุตสากรรมกองทุนรวมมีการเติบโตขึ้นโดยปัจจุบันมีสินทรัพย์รวมกว่า 2.4 ล้านล้านบาท โดยร้อยละ 90 เป็นการเติบโตที่มากจากการลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศรวมทั้งซึ่งแม้ว่าจะมีความเสี่ยงที่ต่ำแต่ผลตอบแทนยังไม่มากนัก ขณะเดียวกันยังขาดการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่นๆ เช่น หุ้น ทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ กองทุนผสม รวมถึง กองทุนเพื่อการลดหย่อนภาษี LTF & RMF ทำให้ขาดการกระจายการลงทุนที่ดี
อย่างไรก็ตาม กองทุนรวมยังมีการเติบโตและมีแนวโน้มที่การใช้กองทุนเพิ่มมากขึ้น นักลงทุนมีความเข้าใจเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับในประเทศสหรัฐฯ ที่ประชาชนใช้กองทุนรวมในการลงทุน
ทั้งนี้มองว่า อุตสาหกรรมกองทุนรวมในช่วงครึ่งปีหลังจะยังมีการเติบโตต่อเนื่องทั้งปีในระดับประมาณ 10% แม้ว่าในเรื่องการประกันเงินฝากของธนาคารพาณิชย์จะเลื่อนออกไป แต่จะยังเชื่อว่ากองทุนรวมจะยังมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังกระแสเงินลงทุนจะไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชีย มากขึ้นเพราะมีการเติบโตที่ดี ขณะที่ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วยังมีความอ่อนแอทางเศรษฐกิจซึ่งต้องใช้เวลาในการเยี่ยวยาต่อไป
ขณะเดียวกันมองว่า ปัจจัยเศรษฐกิจในต่างประเทศนั้น ส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานของภูมิภาคอาเซียน ซึ่งแม้ว่าจะมีการเติบโตที่ดี แต่เมื่อมองให้ลึก อาเซียนยังเป็นผู้ผลิตให้กับประเทศในตะวันตกอยู่และส่งต่อไปยังตลาดใหญ่ในจีนอีกที อย่างไรก็ตามบริษัทจดทะเบียนในไทยยังมีการเติบโตที่ดี และจะสามารถปรับตัวกับปัญหาและสามารถำเติบโตต่อไปได้
"เทรนของการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เชื่อว่ากระแสเงินในระบบเศรษฐกิจโลก จะไหลเข้าไปสู่ภูมิภาคที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจไปอีกระยะหนึ่ง ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ เป็นปัจจัยหนุนให้เศรษฐกิจมีการเติบโต รวมถึงราคาสินทรัพย์" นาย สมจินต์ กล่าว
**กองทุนรวม6เดือนโตกว่า2.5แสนล้าน**
รายงานจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน เปิดเผยว่า สินทรัพย์รวมของอุตสาหกรรมกองทุนรวม ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2555 เติบโตขึ้นจากช่วงต้นปีประมาณ 12.30% โดยมีสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้นประมาณ 2.56 แสนล้านบาทมาอยู่ที่ ประมาณ 2.312 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2.082 ล้านล้านบาท
สำหรับบรริษัทจัดการกองทุน(บลจ.) ที่มีส่่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด 5 อันดับประกอบด้วย 1.บลจ.กสิกรไทย 25% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 5.88 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 10.75% 2.บลจ.ไทยพาณิชย์ 22.71% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 5.31 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 9.98% 3.บลจ.กรุงไทย 13.17% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 3.07 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 17.23%
4.บลจ.บัวหลวง 7.49% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1.75 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 21.05% 5.บลจ.เอ็มเอฟซี 6.78% มีสินทรัพย์รวมอยู่ที่ 1.58 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นจากต้นปี 2.28%
