คาดเงินเฟ้อดันดอกเบี้ยขึ้นช่วงไตรมาสสุดท้าย บลจ.พาเหรดขายกองตราสารหนี้ระยะสั้น ทิสโก้ส่ง “ตราสารหนี้คืนกำไร 3M8” รับดอกเบี้ยขาขึ้น บลจ.วรรณแนะพักเงินกอง “วรรณพันธบัตรไทย” หนีความผันผวน ด้านบัวหลวงเปิดขายตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 24/12 ชูยิลด์ 3.10% ต่อปี ขณะที่แอสเซท พลัส เตรียมเปิดขาย Rollover 2 กองทุน
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์การลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม บริษัทจึงเปิดเสนอขายกองทุนใหม่สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงสูง ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 3M8 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 27 มิถุนายนนี้
สำหรับกองทุนนี้เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝากทั้งในและ/หรือต่างประเทศ โดยจะจ่ายผลตอบแทนอัตโนมัติทุกๆ 3 เดือน ซึ่งการลงทุนในต่างประเทศทำได้ไม่เกิน 79% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน และจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน
ทั้งนี้ TISCO Wealth มองว่าเงินเฟ้อมีโอกาสที่จะเร่งตัวได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีจากเศรษฐกิจไทยที่กลับมาเติบโตโดดเด่นหลังน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะเป็นแรงกดดันต่อคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากระดับที่ 3.00% ณ ปัจจุบัน โดยมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้ถึง 3.50% ในสิ้นปี 2555 โดย TISCO Wealth ยังคงคาดการณ์เงินเฟ้อที่ 3.50% ซึ่งสอดคล้องกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ปรับคาดการณ์จาก 3.40% เป็น 3.50%
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ จำกัด กล่าวว่า แม้ผลการเลือกตั้งในประเทศกรีซ และฝรั่งเศส จะเป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดหมาย และอาจจะคลายความกังวลในช่วงสั้นได้ แต่โดยรวมยังมองว่าปัญหาภาพใหญ่ยังไม่ถูกแก้ไข
สำหรับภาวะการลงทุนที่ผันผวนเช่นนี้ บริษัทแนะนำการทำ switching เพื่อลดสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น หรือกองทุนที่ลงทุนในหุ้น โดยแนะนำให้นำเงินมาพักไว้ที่กองทุนเปิด วรรณพันธบัตรไทย (1AM-TG) ซึ่งเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารภาครัฐของไทย มากกว่า 80% โดยกองทุนนี้มีผลตอบแทนย้อนหลังต่อปี 3 เดือน 6 เดือน เท่ากับ 3.64% และ 3.05% ตามลำดับ ขณะที่ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีของธนาคารพาณิชย์ใหญ่ 3 แห่ง
ย้อนหลัง 3 เดือน และ 6 เดือนอยู่ที่ 2.00% และ 1.98% ตามลำดับ เพื่อรอจังหวะกลับไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงหากความชัดเจนต่างๆ ด้านนโยบายมีมากขึ้น
ขณะที่ บลจ.บัวหลวงเปิดขายกองทุนรวมบัวหลวงตราสารหนี้ชนิดระบุวันครบกำหนด 24/12 ระหว่างวันที่ IPO 20-26 มิถุนายน 55 โดยกองทุนนี้จะมีอายุโครงการ 6 เดือน ประมาณการผลตอบแทน 3.10% ต่อปี ขนาดโครงการ 2,000 ล้านบาท เน้นลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ภาครัฐ และภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้ กองทุนดังกล่าวเหมาะสมกับเงินลงทุนส่วนที่ต้องการความมั่นคง และความเสี่ยงต่ำ เพื่อโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน โดยไม่ต้องไปลงทุนในหุ้น
ด้าน บลจ.แอสเซท พลัส เปิดขายกองทุนเปิดแอสเซทตราสารหนี้ทวีทรัพย์ 3 (ASP-TFIXED3) ในวันที่ 25 มิถุนายน ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทยและลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศได้ไม่เกิน 79% ที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้มีระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.00% ต่อปี และในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ บริษัทฯ จะ Rollover กองทุนเปิดแอสเซทพลัสแอ็คทีฟตราสารหนี้ 4 (ASP-ACFIXED4) ซึ่งเป็นกองทุนตราสารหนี้ไทยที่เปิดเสนอขายเป็นรอบระยะเวลา โดยรอบการลงทุนนี้มีระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.10% ต่อปี
ทั้งนี้ สำหรับรอบการลงทุนทั้ง 2 กองทุนจะลงทุนในตั๋วเงินคลัง, พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และตั๋วแลกเงินของธนาคารและสถาบันการเงินในประเทศ