บลจ.ทิสโก้แนะลงทุนระยะสั้นไม่เกิน 1 ปีรับดอกเบี้ยขาขึ้น ล่าสุดส่ง 3 กองทุนตราสารหนี้ล่อใจ แถมขยายเวลาขายกองทุนโกลด์ ลิ้งค์ ถึง 4 พฤษภาคมนี้ รับดีมานด์ลูกค้าที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ระบุค่าแรง-น้ำมันทำเงินเฟ้อพุ่ง กดดัน กนง.อาจขึ้นดอกเบี้ยช่วงปลายปี
นายธีรนาถ รุจิเมธาภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า TISCO Wealth บริการที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนอย่างครบวงจรของกลุ่มทิสโก้คาดว่าทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อที่อาจมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจมีการทบทวนทิศทางอัตราดอกเบี้ยในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้
สำหรับการลงทุนที่เหมาะสมในตอนนี้จึงไม่ควรเน้นการลงทุนที่มีระยะยาวจนเกินไป โดย TISCO Wealth แนะนำการลงทุนในผลิตภัณฑ์เงินฝากหรือตั๋วแลกเงิน หรือตราสารหนี้ อายุสั้นไม่เกิน 1 ปี เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น
โดยล่าสุดบริษัทจะทำการเสนอขายกองทุนใหม่ 3 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตร 1 ปี กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 3M2 และ กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 6M2 เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนระยะสั้น และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝากให้สอดคล้องกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ “กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตร 1 ปี” จะเปิดเสนอขายครั้งแรก 24 เมษายน-2 พฤษภาคม 2555 จะเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายเน้นการลงทุนในตราสารภาครัฐ พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และพันธบัตรที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก ผู้สั่งจ่าย ผู้รับรอง ผู้รับอาวัล หรือผู้ค้ำประกันเป็นหลัก พร้อมมีสภาพคล่องสูงสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการ
ขณะที่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 3M2” และ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 6M2” จะเปิดเสนอขายครั้งแรก 24-30 เมษายน 2555 นี้ จะเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝาก ทั้งในและ/หรือต่างประเทศ โดยกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกิน 79% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน และจะมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวเหมาะต่อผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะสั้น เนื่องจากจะจ่ายผลตอบแทนอัตโนมัติทุกๆ 3 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ
“กองทุนใหม่ทั้ง 3 กองทุนที่เรานำเสนอในครั้งนี้นับว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นและเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนที่สูงกว่าเงินฝาก โดย “กองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตร 1 ปี” เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการความมั่นคง ปลอดภัย เพราะการลงทุนจะเน้นในตราสารภาครัฐในประเทศเท่านั้น ขณะที่ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 3M2” และ “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 6M2” จะเน้นลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพดีและมีการพิจารณาลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไว้เต็มจำนวน และไม่เสียภาษี ถือเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจลงทุนเป็นอย่างมากสำหรับผู้ที่ไม่ชอบการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง” นายธีรนาถกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายเวลาการเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ลิ้งค์ คอมเพล็กซ์รีเทิร์น” (TISCO Gold Linked Complex Return Fund) อายุ 1 ปี ซึ่งเป็นกองทุนรวมพิเศษที่มีการลงททุนในตราสารหนี้และเงินฝากประมาณ 97% และส่วนที่เหลืออีกประมาณ 3% จะลงทุนในสัญญาออปชันที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ London Gold PM Fixing จากเดิมจะปิดไอพีโอวันที่ 23 เมษายน เป็นวันที่ 4 พฤษภาคม 2555 เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า