บลจ.ธนชาต และ บลจ.เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนตราสารระยะสั้น ลงทุนในหุ้นกู้เอกชนผสมเงินฝากแบงก์ต่างชาติ ให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 3.30% ต่อปี เปิดขายหน่วยลงทุนแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 23 ก.ค. 55
นางสาวทิพวัลย์ เอี่ยมโอภาส ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธนชาต จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ จะทำการเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income M2 (TFixedIncomeM2) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 2.90 % ต่อปี มีเป้าหมายลงทุนในเงินฝากสกุลเงิน Arab Emirates Dirham ธนาคาร Union National Bank ธนาคาร Frist Gulf Bank ประมาณ 22% ลงทุนในเงินฝาก/ตั๋วแลกเงิน ธนาคารเกียรตินาคิน ประมาณ 22% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น ที่ออกโดย บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส บมจ.อยุธยา ดีเวลลอปเม้น ลีสซิ่ง ประมาณ 22% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง บมจ.แสนสิริประมาณ 22% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย บมจ.เอสโซ่ (ประเทศไทย) บมจ.โตโยต้า ลิสซิ่ง ประมาณ 11.90% และลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศประมาณ 0.10% อายุประมาณ 3 เดือน ผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 3.1690% ต่อปี โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.2690% ต่อปี
สำหรับอีกหนึ่งกองทุน คือ กองทุนเปิดธนชาต Fixed Income 9M1 (TFixedIncome9M1) ระยะเวลาลงทุนประมาณ 9 เดือน ผลตอบแทนประมาณ 3.35% ต่อปี มีเป้าหมายลงทุนในเงินฝากสกุลเงิน Arab Emirates Dirham ธนาคาร Union National Bank / Abu Dhabi Commercial Bank / ธนาคาร Frist Gulf Bank ประมาณ 22% ลงทุนในเงินฝากสกุลเงิน CNH ธนาคาร Standard Chartered Bank (Hong Kong) ประมาณ 22.00% ลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดย Itau Unibanco S.A. / Banco Bradesco ประมาณ 22% ลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดย Emirates NBD ประมาณ 12.90% ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นที่ออกโดย บมจ.ภัทรลิสซิ่ง ประมาณ 21.00% และลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ประมาณ 0.10% อายุประมาณ 9 เดือนผลตอบแทนรวมของตราสารประมาณ 3.4965 % ต่อปี โดยมีประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุนประมาณ 0.1465% ต่อปี ทั้งสองกองทุนเสนอขายครั้งเดียวระหว่างวันที่ 19-23 กรกฎาคม 2555 โดยกองทุนจะมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวนสำหรับมูลค่าตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนลงทุน
ทางด้านนางสาวประภา ปูรณโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เอ็มเอฟซีเปิดขายกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี กาญจนทรัพย์ 12 ซีรี่ส์ 1 เป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ซึ่งจะลงทุนในต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 79 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ คาดโอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 3.30 ต่อปี โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่มีคุณภาพทั้งในและต่างประเทศ เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งชาติ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตราสารหนี้ที่ออกโดยนิติบุคคลที่มีกฎหมายเฉพาะจัดตั้งขึ้น ตราสารหนี้ที่ออกโดยธนาคารต่างประเทศ และตราสารหนี้เอกชนที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
ตัวอย่างตราสารที่คาดว่ากองทุนจะลงทุนมีดังนี้ ตราสารหนี้ในประเทศ ได้แก่ พันธบัตรรัฐวิสาหกิจการเคหะแห่งชาติ ร้อยละ 56 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 1.79 ต่อปี ตราสารต่างประเทศ ได้แก่ เงินฝากประจำของธนาคาร Union National Bank ร้อยละ 24 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.87 ต่อปี เงินฝากประจำของธนาคาร First Gulf Bank ร้อยละ 20 ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับร้อยละ 0.71 ต่อปี โดยกองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารอื่นแทนหรือเพิ่มเติม เช่น พันธบัตรรัฐบาลไทย ธนาคารเกียรตินาคิน บจก.อยุธยาดีเวลลอปเม้นท์ ลีสซิ่ง พันธบัตรรัฐบาลเกาหลี China Construction Bank เป็นต้น หรือตราสารอื่นที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ คือไม่ต่ำกว่า BBB-
ทั้งนี้ ประมาณการผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนก่อนหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 3.37 ต่อปี ประมาณการค่าใช้จ่ายของกองทุนร้อยละ 0.07 และประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายร้อยละ 3.30 ต่อปี โดยจะเปิดขายไอพีโอตั้งแต่วันที่ 17-23 กรกฎาคม 2555