บลจ.ทิสโก้ตั้งเป้ากองสำรองเลี้ยงชีพโต 9,700 ล้าน หรือ 15% ในปีนี้ หลังสมาชิกลดลงไปช่วงต้นปีจากปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะ บ.อุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์ เผยเตรียมเปิดให้บริการ Employee’s Choices สับเปลี่ยนนโยบายลงทุนผ่านเว็บได้สิงหาคมนี้
นางสาวอารยา ธีระโกเมน กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ตั้งเป้าการเติบโตของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอยู่ที่ประมาณ 97,000 ล้านบาท หรือประมาณ 15% โดย ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 87,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นมาจากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 85,000 ล้านบาท หรือประมาณ 2.35% และยังคงเน้นการให้บริการแก่ลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพมากกว่าการเติบโตของสินทรัพย์บริษัท (AUM) ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประมาณ 3,000 กว่าราย จากที่ทั้งอุตสาหกรรมมีอยู่ประมาณ 11,000 ราย มีสมาชิกของบริษัทเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 300 บริษัท โดยมีบริษัทขนาดเล็ก และขนาดกลางเป็นหลัก
“ภาพรวมของอุตสาหกรรมก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปีที่ผ่านมาแต่ไม่มากนัก ขณะที่บริษัทเองได้รับผลกระทบพอสมควรเพราะมีฐานลูกค้าเป็นบริษัทเอกชนค่อนข้างมาก แต่ตอนนี้ตัวเลขผลกระทบดังกล่าวค่อนข้างนิ่งแล้ว บริษัทเองคงพยายามจะรุกขยายฐานลูกค้าต่อไปในช่วงที่เหลือของปี บลจ.ที่เน้นฐานลูกค้ารัฐวิสาหกิจก็คงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ในส่วนของบริษัทในยุโรปเองที่มีการปรับลดขนาดธุรกิจลงในปัจจุบันก็น่าจะนิ่งแล้ว หลังจากนี้คงมองในเรื่องของโอกาสในการเติบโตมากขึ้น” นางสาวอารยากล่าว
นางแขขวัญ โรจน์วัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า บริษัทยังคงพยายามหาฐานลูกค้าใหม่เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีเข้าไปประมูลงานอยู่หลายแห่งเช่นเดียวกัน ตลอดจนการรักษาฐานลูกค้าเก่าเอาไว้ ทั้งในส่วนของสมาชิกที่ครบอายุให้เลือกที่จะคงเงินต่อไปได้ หรือการที่เตรียมแผนจะให้สมาชิกเมื่อเกษียณแล้วสามารถจะเลือกรับเงินเป็นงวดๆ ได้เลย ในเดือนใดตามความต้องการของสมาชิกซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงปลายปี 55 นี้
นอกจากนี้ ในเดือน ส.ค. 55 นี้จะให้สมาชิกสามารถทำการสับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนผ่านเว็บไซต์ได้ในลักษณะของทางเลือกการลงทุน (Employee’s Choices) ได้ไตรมาสละ 1 ครั้ง ซึ่งสมาชิกจะเปลี่ยนนโยบายอย่างไรก็ได้ บริษัทจะเลือกนโยบายที่อัปเดตสุดของสมาชิกในช่วงเวลาที่เปิดให้เพื่อไปเข้าระบบสำหรับสมาชิกที่เป็นกองทุนร่วม (Pooled Fund)
ส่วนของกองทุนเดี่ยว (Single Fund) นั้น จะเปิดให้สับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนได้สูงสุดปีละ 2 ครั้งเท่านั้น เพราะขนาดกองทุนเดี่ยวอาจจะไม่ได้ใหญ่มากนักเพื่อความสะดวกในการดำเนินการของบริษัทด้วย โดยภาพรวมบริษัทก็ยังมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ระดับ 15% ตามที่ตั้งเอาไว้ให้ได้ในปีนี้เช่นกัน”
นอกจากนี้ นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ. ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า เพื่อตอบโจทย์การลงทุนในจังหวะเวลาที่เหมาะสม TISCO Wealth จึงเปิดเสนอขายกองทุนใหม่สำหรับนักลงทุนที่ไม่ชอบความเสี่ยงสูง ได้แก่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 3M9 ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้หรือเงินฝาก ทั้งในและ/หรือต่างประเทศ
โดยลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกิน 79% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน และจะมีการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยกองทุนดังกล่าวจะจ่ายผลตอบแทนอัตโนมัติทุกๆ 3 เดือน เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการลงทุนสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการลงทุนความเสี่ยงสูง เหมาะต่อผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะสั้นๆ แต่ได้รับผลตอบแทนดีกว่าเงินฝาก
โดย TISCO Wealth แนะนำการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่าให้เน้นการลงทุนระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายมีโอกาสที่จะทรงตัวหรืออาจจะปรับตัวสูงขึ้นมาแตะระดับ 3.5% ในช่วงปลายปี
จากความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น ดังนั้นการลงทุนที่เหมาะสมจึงควรเป็นระยะสั้นเพื่อไม่ให้เสียโอกาสจากอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นในอนาคต ซึ่งการลงทุนใน “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 3M9” ซึ่งมีอายุเพียง 3 เดือน จึงสามารถตอบโจทย์ด้านการลงทุนได้เป็นอย่างดี โดย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ตราสารหนี้คืนกำไร 3M9” เปิดเสนอขายครั้งแรกตั้งแต่ 27 มิ.ย.-2 ก.ค. 55 มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท