วรรณแนะปรับพอร์ตลงทุน เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้สูงกว่าบอนด์ ชูกอง “วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์” ผลตอบแทนดีกว่าบอนด์และหุ้นในช่วงตลาดผันผวน
นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่องจากสถานการณ์ในยุโรปที่ยังไม่น่าไว้วางใจ พร้อมแนะนำให้นักลงทุนปรับพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงลงโดยการเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ running yield ที่ค่อนข้างสูงกว่าพันธบัตร เช่น กองทุนเปิด วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ พลัส ฟันด์ (ONE-PROP) ที่ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือกองทุนเปิด วรรณ พร็อพเพอร์ตี้ สิงคโปร์ (ONEPROP-SG) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยจะเน้นลงทุนใน Philip Singapore Real Estate Income Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลัก (Master Fund) โดยทั้งสองกองทุนนี้ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอในรูปของค่าเช่าจากการปล่อยเช่าสินทรัพย์ที่สูงประมาณ 6-7% ต่อปี นอกจากนี้ ผู้ลงทุนมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเป็นระยะๆ จากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติปีละไม่เกิน 4 ครั้งอีกด้วย
ทั้งนี้ หลังจากที่กองทุนเปิด ONE-PROP ได้ทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ (Auto redemption) ของกองทุนเปิด ONE-PROP ในอัตราร้อยละ 1.75 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของลูกค้าแต่ละรายเมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 55 นั้น คิดเป็นผลตอบแทนที่ได้รับจากการ auto redemption ย้อนหลัง 1 ปีเท่ากับ 7% ต่อปี ในปัจจุบันผู้ลงทุนสามารถเข้ามาลงทุนในกองทุนนี้เพิ่มได้อีกครั้งจนกว่ากองทุนจะเต็มมูลค่าโครงการคือ 220 ล้านหน่วย หรือคิดเป็นมูลค่าทรัพย์สินของกองทุนประมาณ 3,000 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 55 บลจ.วรรณได้ทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติหน่วยลงทุนของกองทุนเปิด ONEPROP-SG จากจำนวนเงินที่จัดสรรจากเงินสดรับที่ได้จากเงินปันผลของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุนในอัตราร้อยละ 1.75 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของลูกค้าแต่ละราย โดยใช้ราคา ณ วันที่ 26 มิ.ย. 55 และผู้ลงทุนจะได้รับเงินค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติในวันที่ 3 ก.ค. 55 ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนจะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติไม่เกินปีละ 4 ครั้ง ทั้งนี้ กองทุนเปิด ONEPROP-SG ได้ทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติตั้งแต่ต้นปีไปแล้วร้อยละ 5.25 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของลูกค้าแต่ละราย หรือคิดเป็นผลตอบแทนประมาณ 10.50% ต่อปี
“การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์นับเป็นทางเลือกที่มีความน่าสนใจ และให้อัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับกองทุนรวมตราสารหนี้หรือกองทุนรวมหุ้นในช่วงที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน โดยกองทุน ONE-PROP มีผลตอบแทนต่อปี ย้อนหลัง 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปี เท่ากับ 6.46% 12.38% และ 14.79% ตามลำดับ โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับ 15.0196 บาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 2,219.78 ล้านบาท (26 มิ.ย. 55) และกองทุน ONEPROP-SG มีผลตอบแทนต่อปี ย้อนหลัง 3 เดือน และ 6 เดือน เท่ากับ 6.55% 15.73% โดยมีมูลค่าหน่วยลงทุนเท่ากับ 11.2943 บาท และมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 73.67 ล้านบาท (26 มิ.ย. 55)” นายวินกล่าว