บลจ.วรรณใจดีปันผลกองทุนอสังหาริมทรัพย์ 2 กองรวด “บางกอก และทรีนีตี้” ในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.175 บาท และ 0.187 บาท ตามลำดับ นักลงทุนรอรับปันผลพร้อมกัน 19 มิถุนายนนี้
นางพรรณสุภา เสสะเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรีนีตี้ ได้มีมติเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 55 ให้จ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอกในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.175 บาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรีนีตี้ ชในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.187 บาท จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 55 โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนของทั้งสองกองทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 31 พฤษภาคม 55 และทั้งสองกองทุนมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 มิถุนายน 55
โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทกองทุนปิดและไม่กำหนดอายุโครงการ มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยกองทุนฯ ได้เข้าลงทุนในห้องชุดสำนักงานและห้องชุดพาณิชยกรรมในอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ และอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 จำนวนพื้นที่รวม 30,008.16 ตารางเมตร มีบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2555 มีอัตราการเช่าพื้นที่ของกองทุนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 84.52% และ ณ วันที่ 31 มีนาคม 55 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 12.1916 บาท
ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรีนีตี้เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทกองทุนปิด และไม่กำหนดอายุโครงการ มีมูลค่าโครงการ 710 ล้านบาท กองทุนฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยกองทุนฯ ลงทุนในที่ดิน อาคาร และงานระบบสาธารณูปโภค เฟอร์นิเจอร์ วัสดุ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์โกลว์ ทรีนีตี้ สีลม พื้นที่พาณิชยกรรมโกลว์ ตรีนิตี้ สีลม และกรรมสิทธิ์ห้องชุดอาคารศูนย์การค้ามอลล์ 1 กองทุนนี้มีการรับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนรวมเป็นระยะเวลา 4 ปี โดยปีที่ 1 จะรับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนรวมไม่น้อยกว่า 65.7 ล้านบาท ปีที่ 2 เพิ่มเป็น 66.7 ล้านบาท ปีที่ 3 เป็น 67.1 ล้านบาท และปีที่ 4 เป็น 67.1 ล้านบาท (ในกรณีที่กองทุนรวมได้พิจารณาต่ออายุสัญญาเช่า เมื่อครบ 3 ปีแรก) พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคารพาณิชย์ โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 55 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 11.4061 บาท ทั้งสองกองทุนนี้ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ใช้ชื่อย่อ BKKCP และ TNPF
นางพรรณสุภา เสสะเวช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บลจ.วรรณ ในฐานะบริษัทจัดการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรีนีตี้ ได้มีมติเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 55 ให้จ่ายเงินปันผลกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอกในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.175 บาท และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรีนีตี้ ชในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.187 บาท จากผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 มีนาคม 55 โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนของทั้งสองกองทุนเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผลในวันที่ 31 พฤษภาคม 55 และทั้งสองกองทุนมีกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 มิถุนายน 55
โดยกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทกองทุนปิดและไม่กำหนดอายุโครงการ มีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับเงินปันผลไม่เกินปีละ 4 ครั้ง โดยกองทุนฯ ได้เข้าลงทุนในห้องชุดสำนักงานและห้องชุดพาณิชยกรรมในอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ และอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 จำนวนพื้นที่รวม 30,008.16 ตารางเมตร มีบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2555 มีอัตราการเช่าพื้นที่ของกองทุนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 84.52% และ ณ วันที่ 31 มีนาคม 55 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 12.1916 บาท
ส่วนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรีนีตี้เป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ประเภทกองทุนปิด และไม่กำหนดอายุโครงการ มีมูลค่าโครงการ 710 ล้านบาท กองทุนฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยกองทุนฯ ลงทุนในที่ดิน อาคาร และงานระบบสาธารณูปโภค เฟอร์นิเจอร์ วัสดุ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องของเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์โกลว์ ทรีนีตี้ สีลม พื้นที่พาณิชยกรรมโกลว์ ตรีนิตี้ สีลม และกรรมสิทธิ์ห้องชุดอาคารศูนย์การค้ามอลล์ 1 กองทุนนี้มีการรับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนรวมเป็นระยะเวลา 4 ปี โดยปีที่ 1 จะรับประกันรายได้ขั้นต่ำของกองทุนรวมไม่น้อยกว่า 65.7 ล้านบาท ปีที่ 2 เพิ่มเป็น 66.7 ล้านบาท ปีที่ 3 เป็น 67.1 ล้านบาท และปีที่ 4 เป็น 67.1 ล้านบาท (ในกรณีที่กองทุนรวมได้พิจารณาต่ออายุสัญญาเช่า เมื่อครบ 3 ปีแรก) พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคารพาณิชย์ โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 55 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 11.4061 บาท ทั้งสองกองทุนนี้ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใต้หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ใช้ชื่อย่อ BKKCP และ TNPF
