คอลัมน์ Good Morning News วันที่ 8 พฤษภาคม 2555
โดย วรวรรณ ธาราภูมิ
และทีมจัดการกองทุน บลจ.บัวหลวง
เศรษฐกิจโลก
• ฟรองซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยม ได้รับชัยชนะเหนือประธานาธิบดีนิโคลาส์ ซาร์โกซีอย่างขาดลอยในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส เนื่องจากประชาชนไม่พอใจผลการบริหารประเทศของซาร์โกซีที่มุ่งเน้นการรัดเข็มขัด ในขณะที่ออลลองด์ ผู้ชนะการเลือกตั้ง ชูนโยบายการจัดเก็บภาษีจากบรรษัทขนาดใหญ่ การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ การเพิ่มการจ้างงานในตำแหน่งครู และการผ่อนปรนนโยบายรัดเข็มขัด ซึ่งเป็นแนวคิดที่สวนทางกับสนธิสัญญาหลักการงบประมาณของยุโรป
• การเมืองในกรีซกำลังเสี่ยงมากขึ้นหลังการพ่ายแพ้การเลือกตั้งของ 2 พรรคใหญ่ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลเก่า เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจมาตรการรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจอย่างเข้มงวด จึงหันไปลงคะแนนให้พรรคการเมืองขนาดเล็กที่ประกาศจะผลักดันให้ยกเลิกมาตรการดังกล่าว
โลกจึงกังวลเรื่องการจะไม่ใช้มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลชุดก่อนตกลงใช้เพื่อแลกกับความช่วยเหลือทางการเงินจาก EU และ IMF กับทำให้กรีซเสี่ยงที่จะหลุดพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซนมากขึ้น
• ยอดค้าปลีกของประเทศกลุ่มยูโรโซนในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า เพราะได้รับอานิสงส์จากภาคค้าปลีกของเยอรมนีและฝรั่งเศสที่สามารถขยายตัวได้ แต่ว่าแนวโน้มความต้องการของผู้บริโภคประเทศอื่นๆ ยังคงอ่อนแอ
• สถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษ (NIESR) คาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซนและอังกฤษจะเผชิญกับภาวะถดถอยในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ และตลอดทั้งปีอังกฤษอาจจะขยายตัวในระดับใกล้ 0% ก่อนที่จะฟื้นตัวขึ้น 2% ในปีหน้า โดยอัตราว่างงานจะเพิ่มขึ้นจาก 8.3% ในปัจจุบันเป็นเกือบ 9% ในสิ้นปีนี้
อัตราการว่างงานระดับสูงเช่นนี้จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจในระยะยาว
• ยอดคำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมนีในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 2.2% จากเดือนก่อนหน้า สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% เนื่องจากประเทศตลาดเกิดใหม่นอกกลุ่มยูโรโซนมีความต้องการสินค้าอีกมาก
• ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ เดือนเมษายน 55 เพิ่มขึ้น 115,000 ตำแหน่ง น้อยกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 ตำแหน่ง และเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน ส่วนอัตราว่างงานได้ลดลงอยู่ที่ระดับ 8.1%
ทั้งนี้ ตัวเลขจ้างงานที่ชะลอลงจะเพิ่มความวิตกกังวลต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากขึ้น
• นักวิเคราะห์จาก Moody’s Analytics ให้ความเห็นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่มีสัญญาณชะลอตัวในช่วงนี้ว่า โอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวมากเหมือนกับที่เกิดขึ้นในปีก่อนนั้นมีค่อนข้างน้อย เพราะระดับของดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขการจ้างงาน หรือแม้แต่ตัวเลขของภาคอสังหาริมทรัพย์ต่างก็ดีขึ้นกว่าปีก่อนมาก และปีนี้ก็ไม่มีปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจมากเท่ากับปีที่แล้ว
• กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (OPEC) ไม่พอใจราคาน้ำมันในปัจจุบัน และพยายามดึงราคาลงด้วยการผลิตมากกว่าเป้าหมายที่เป็นทางการ โดยระบุว่าระดับราคาที่เหมาะสมคือ 100 ดอลลาร์
ผลของคำกล่าวนี้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงมาแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ โดยขณะนี้ OPEC ได้ผลิตน้ำมันสูงกว่าเป้าหมายอยู่ 2.3 ล้านบาร์เรล/วัน ในขณะที่การส่งออกน้ำมันของอิหร่านลดลงเพียง 200,00-300,000 บาร์เรล/วันเท่านั้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
เศรษฐกิจเอเชีย
• แม้ว่าจะเกิดปัญหาเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซน GDP อินโดนีเซียในไตรมาส 1 ปีนี้ก็ยังขยายตัวได้ถึง 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยชะลอตัวเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับอัตราการขยายตัวระดับ 6.5% ในปี 2554 เนื่องจากความต้องการบริโภคและการลงทุนในประเทศเติบโตได้ดี
• หลังเกิดเหตุระเบิดในโรงงานของบริษัทกรุงเทพซินเทติกบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งเร่งตรวจสอบการใช้สารไวไฟในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเคร่งครัด โดยอาจต้องเพิ่มความถี่เป็นทุก 3 เดือนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต
ทั้งนี้ กรมโรงงานและการนิคมอุตสาหกรรมประกาศว่า จะสั่งปิดโรงงานทันทีถ้าหากเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้อีก
Equity Market
• SET Index เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดที่ 1,227.41 จุด ลดลง 12.62 จุด หรือ -1.02% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 35,994 ล้านบาท แต่นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิ 1,658 ล้านบาท โดยมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มพาณิชย์บางตัวที่ราคาปรับตัวขึ้นมามากในช่วงก่อนหน้า
นอกจากนี้ ดัชนียังถูกแรงกดดันจากตลาดหุ้นต่างประเทศที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศนั้นน่าจะมีแนวโน้มแย่กว่าที่คาด รวมทั้งยังมีความกังวลต่อผลการเลือกตั้งของประเทศฝรั่งเศส และกรีซด้วย
Fixed Income Market
• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยรุ่นอายุต่ำกว่า 3 ปีปรับลดลงในช่วงระหว่าง -0.01 ถึง 0.00% ส่วนรุ่นอื่นๆ มีอัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
วันนี้จะมีการประมูลพันธบัตร ธปท. 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 1 เดือน 3 เดือน และ 6 เดือน มูลค่ารวม 68,000 ล้านบาท
Guru Corner
• Nouriel Rubini “คนที่มองในแง่ดีบอกว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังฟื้นได้ด้วยตัวของมันเอง แต่ข้อมูลที่มีอยู่มันบ่งบอกว่า ใช่ เราจะโชคดีเอามากๆ ถ้าปีนี้อเมริกาโตได้ถึง 2% และที่ระดับนี้หากทำได้เขาก็ไม่เรียกว่าฟื้นตัว
ผลจากการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ของกรีซออกมาแย่กว่าที่ฝรั่งเศส เพราะกว่าจะได้รัฐบาลจริงมันจะอลหม่าน ในขณะที่เนเธอร์แลนด์จะออกมาโกลาหลในระดับกลางๆ
ตัวเลขดัชนี PMI ของกลุ่มยูโรโซนออกมาแล้ว และมันก็ยืนยันว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในยุโรปกำลังถลำลึกลงไปกว่าเดิม ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มัวแต่ทำอะไรอยู่?
ถ้ามีประเทศใดในยุโรปผิดนัดชำระหนี้อย่างไม่มีระบบ หรือแตกแยกออกจากกลุ่มยูโรโซนอย่างไม่มีระเบียบ ความเสียหายจะระบาดไปทั่วในระดับมหากาฬ”
Marc Faber
“ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังคงเปราะบาง มีหุ้นหลายตัวถูกเทขายทั้งๆ ที่มีข่าวดี ตลาดในสหรัฐฯ คงจะมีอะไรที่น่าเป็นห่วงมากกว่าที่เราคิด
สำหรับเรื่องทองคำนั้น ในระยะสั้นๆ ทองคำไม่น่าจะให้ผลตอบแทนดี เพราะทองคำเคยให้ผลตอบแทนดีมากไปแล้ว จึงต้องมีการถอยลงก่อนบ้าง
มีคนพูดกันว่าราคาทองคำกำลังอยู่ในช่วงเป็นฟองสบู่ เพราะราคาทองคำในวันนี้พุ่งขึ้นมาแรงมากจากราคาต่ำสุดที่ $252 ต่อออนซ์ ในปี 1999
แต่ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เรามีหนี้ที่ปะทุขึ้นมาจากหนี้ภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงหนี้สวัสดิการที่มีแต่ตัวเลข เพราะที่รัฐยังไม่ได้ใส่เงินลงไปตามภาระจริงที่มี อย่างเช่นประกันสังคม กับสวัสดิการและการประกันสุขภาพ เป็นต้น
ในวันนี้ซึ่งเป็น 12 ปีให้หลังนับจากราคาทองคำต่ำสุดที่ $252 ต่อออนซ์ ในปี 1999 เรากำลังอยู่ในภาวะที่ทองคำควรจะมีราคาสูงขึ้นอีกมาก เพราะว่าสภาพเศรษฐกิจและการเงินย่ำแย่กว่าที่เคยเป็นเมื่อ 12 ปีที่แล้ว
ผมได้ถามผู้เข้าร่วมงานสัมมนาหลายแห่งว่ามีกี่คนที่มีทองคำ คำตอบตามปกติก็คือแทบไม่มีสักคน และมีครั้งหนึ่งที่มีคนเข้าฟังถึงหลายพันคน ปรากฏว่าไม่มีใครสักคนที่มีทองคำ
อาการอย่างนั้นไม่ใช่ฟองสบู่ ไม่เหมือนครั้งที่ไปงานสัมมนาด้านลงทุนในปี 1989 ที่ทุกคนมีหุ้นญี่ปุ่น และในปี 2000 ที่ทุกคนมีหุ้นเทคโนโลยี อย่างนั้นต่างหากที่เขาเรียกว่าฟองสบู่
“ฟองสบู่เกิดเมื่อผู้เล่นส่วนใหญ่ในตลาดเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นๆ และขณะนี้ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนมากที่มีหุ้น Apple มากกว่าเป็นเจ้าของทองคำ”