เอเอฟพี - HSBC เผย (23 เม.ย.) กิจกรรมการผลิตของจีนกระเตื้องขึ้นบ้างในเดือน เม.ย. แต่ยังคงอยู่ในภาวะหดตัว แนะรัฐบาลมหาอำนาจเศรษฐกิจลำดับสองจีนควรเร่งผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพื่อแก้ปัญหา
ผลการสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ของ HSBC ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดกิจกรรมความเคลื่อนไหวภาคอุตสาหกรรมของจีน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.1 ในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อเดือน มี.ค. ซึ่งอยู่ที่ 48.3 แถลงการณ์ HSBC ระบุ
นักวิเคราะห์อธิบายว่า ค่าดัชนี PMI มีเส้นแบ่งระหว่างภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวแข็งแกร่งและหดตัวที่ระดับ 50 โดยหากเคลื่อนไหวสูงกว่าระดับ 50 แสดงถึงการขยายตัวของเศรษฐกิจ และหากหดตัว ดัชนีจะลดไปต่ำกว่าระดับ 50
ฉี่ว์ หงปิน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ HSBC วิเคราะห์ว่า ตัวเลขดังกล่าวที่สดใสขึ้นสะท้อนให้เห็นว่ามาตรการของรัฐบาลเริ่มได้ผล และจะช่วยบรรเทาความวิตกภาวะการดิ่งลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงหรือฮาร์ด แลนดิ้งได้
“ทั้งปริมาณการผลิตสินค้าและความต้องการบริโภคยังอยู่ในระดับต่ำ ตลอดจนตลาดแรงงานยังคงอยู่ในช่วงที่ได้รับแรงกดดัน ปัญหาเหล่านี้กำลังรอคอยให้รัฐบาลบังคับใช้นโยบายบรรเทาอย่างเร่งด่วน” ฉี่ว์กล่าว
นักวิเคราะห์หลายคนเผยมุมมองว่า รัฐบาลจำเป็นต้องมีนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยเฉพาะการตัดลดเงินสดสำรองของธนาคารในจีนลง เพื่ออำนวยการกู้ยืม และเป็นการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบ
โย่ว หงเย่ นักวิเคราะห์จาก เอสเซนส์ ซิเคียวริตี้ กรุงปักกิ่ง เผยว่า “การขยับตัวขึ้นของดัชนี PMI ช่วยลดความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลงไปได้บ้าง แต่ก็ถือว่าไม่ได้มีผลขนาดทำให้รัฐบาลจีนถึงกับผ่อนคลายนโยบายทางการเงินทั้งหมดจนเสียทิศทาง”
เศรษฐกิจจีนขยายตัว 8.1 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี นับเป็นช่วงที่เติบโตช้าสุดในรอบเกือบ 3 ปี ส่งผลให้รัฐบาลปักกิ่งต้องผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน
จีนได้ตัดลดเงินสดสำรองธนาคาร 2 ครั้งนับแต่เดือน ธ.ค. 2554 เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายต้องการสนับสนุนการกู้ยืม เพื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อย
งานวิจัยของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ เผยว่า จีนควรจะสนับสนุนการใช้จ่ายในภาคโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน และตัดลดเงินสดสำรองธนาคารให้เร็วก่อนเดือน พ.ค.
“พวกเราหวังว่าจะได้เห็นการผ่อนคลายนโยบายการเงินการคลังจีนในไตรมาสที่ 2” จัง จื้อเหว่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แห่งโนมูระเผย
ตัวเลขของ HSBC ถือว่ามองโลกในแง่ร้ายมากกว่าตัวเลขทางการของจีน ทั้งนี้ ข้อมูลอย่างเป็นทางการของจีนสำหรับเดือน เม.ย. ยังไม่เปิดเผย
นอกจากนั้นผลสำรวจของ HSBC ยังเน้นไปที่บริษัทขนาดเล็ก ที่ต้องรับทุกข์อย่างมากจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
ตัวเลขทางการของรัฐบาลจีนเดือนที่ผ่านมาระบุว่า อัตราการผลิตของจีนเพิ่มขึ้นสู่จุดสูงสุดในรอบปีนี้เมื่อเดือนมี.ค. ซึ่งถือว่าขยายตัวต่อเนื่องมาเป็นเดือนที่ 4
มีการคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวในปีนี้ เมื่อตลาดส่งออกอย่างยุโรปและสหรัฐฯ ประสบปัญหาหนี้สาธารณะและเศรษฐกิจภายใน
รัฐบาลจีนตั้งเป้าให้เศรษฐกิจจีนในปี 2555 ขยายตัวอยู่ที่ 7.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งปีที่แล้วโต 9.2 เปอร์เซ็นต์ และปีก่อนหน้า 10.4 เปอร์เซ็นต์